นายมัลคอล์ม เทิร์นบูล นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย เปิดเผยว่า ผลการนับคะแนนเลือกตั้งเมื่อวันเสาร์ซึ่งค่อนข้างสูสีนั้น จะใช้เวลาถึงช่วงปลายสัปดาห์นี้กว่าจะรู้ผลแน่นอน แต่เขาเชื่อว่า พรรคลิเบอร์รัล-เนชั่นแนล จะได้เสียงข้างมากในรัฐสภาอย่างฉิวเฉียด
"ผมเชื่อว่า ชาวออสเตรเลียต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่านี้" นายเทิร์นบูล กล่าวกับสื่อมวลชน หลังจากที่การนับคะแนนได้หยุดลงชั่วคราวเมื่อเวลา 02.00 น. ตามเวลาออสเตรเลีย
เขากล่าวว่า "ผมยังคงเชื่อมั่นว่า รัฐบาลผสมจะได้รับเสียงข้างมากในการเลือกตั้งครั้งนี้ เมื่อการนับคะแนนสิ้นสุดลงอย่างสมบูรณ์"
ออสเตรเลียจะกลับมาเริ่มนับคะแนนอีกครั้งในเช้าวันอังคารนี้ โดยนายบิล ชอร์ทเท่น ผู้นำพรรคเลเบอร์ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของออสเตรเลีย ได้ขอให้ชาวออสเตรเลียจับตาดูผลการนับคะแนนอย่างอดทน
"เราอาจจะยังไม่ทราบผลนับคะแนนในช่วงนี้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมมั่นใจ นั่นคือพรรคเลเบอร์หวนกลับมาอีกครั้ง" นายชอร์ทเท่น กล่าว "หลังจากที่พรรคลิเบอร์รัลได้รับการสนับสนุนอย่างถล่มทลายเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ในที่สุดก็เริ่มเสียอำนาจไปบ้างแล้ววันนี้"
การที่ออสเตรเลียจะได้รัฐบาลที่มีเสียงข้างน้อยในสภา (hung parliament) ซึ่งก็คือไม่มีพรรคใดได้รับเสียงข้างมากอย่างสมบูรณ์ เริ่มมีความเป็นไปได้มากขึ้น
นายเทิร์นบูลได้ให้เหตุผลของความล่าช้าในการนับคะแนนว่า ผู้ลงคะแนนประมาณหนึ่งในสามมีการลงคะแนนล่วงหน้า หรือไม่ก็ลงคะแนนในวันจริงผ่านทางไปรษณีย์ ซึ่งยังไม่ได้นับแล้วเสร็จ
คะแนนโหวตเหล่านี้จะมีผลชี้ชะตาการเลือกตั้ง เนื่องจากยังเหลือที่นั่งอีก 12 ที่นั่ง จากทั้งหมด 150 ที่นั่ง โดยพรรคลิเบอร์รัลของนายเทิร์นบูลจำเป็นต้องได้อย่างน้อย 76 ที่นั่งเพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่
นับจนถึงวันนี้ พรรคเลเบอร์-เนชั่นแนลได้คว้าไปแล้ว 71 ที่นั่ง เพิ่มขึ้นจาก 55 ที่นั่งในการเลือกตั้งเมื่อปี 2556 ส่วนพรรคลิเบอร์รัล-เนชั่นแนล ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ได้ไปแล้ว 67 ที่นั่ง ลดลงจาก 90 ที่นั่งในการเลือกตั้งครั้งก่อนหน้า
หากผลการนับคะแนนปรากฏว่า ไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมาก หรืออย่างน้อย 76 ที่นั่งจาก 150 ที่นั่ง ทั้ง 2 พรรคก็จะต้องเจรจากับพรรคเล็กและส.ส.อิสระเพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสม ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้วในปี 2553 และต้องใช้เวลา 17 วันจนกว่าจะทราบผล
โดยหากไม่มีพรรคใดจัดตั้งรัฐบาลผสมร่วมกับพรรคเล็กและส.ส.อิสระได้ ออสเตรเลียก็อาจจะต้องจัดการเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง สำนักข่าวเกียวโดรายงาน