เลือกตั้งสหรัฐ 2016: ผลสำรวจชี้การเลือกตั้งสหรัฐไร้ทิศทางฉุดศก.ประเทศซบเซา

ข่าวการเมือง Tuesday August 23, 2016 12:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติของสหรัฐ (NABE) เปิดเผยผลสำรวจล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่า นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อว่า ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นในระหว่างการเลือกตั้งประธานาธิบดีประจำปีนี้ ได้ส่งผลกระทบต่ออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐ

นักเศรษฐศาสตร์กว่า 62% ระบุว่า ภาวะความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นระหว่างการเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่อีก 35% มองว่า การเลือกตั้งที่จะเปิดฉากขึ้นในเดือนพ.ย.ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจแต่อย่างใด

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐออกมาเปิดเผยว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 1.2% ในไตรมาสสองของปีนี้ หลังจากที่ในไตรมาสแรกขยายตัวเพียง 0.8% ซึ่งนับว่าเป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกันแล้วที่เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวต่ำกว่า 2% สะท้อนให้เห็นภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังคงเปราะบาง

สำหรับความเชื่อมั่นเกี่ยวกับความสามารถในการบริหารเศรษฐกิจของผู้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐแต่ละรายนั้น นักเศรษฐศาสตร์ 55% ระบุว่า นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตมีความน่าเชื่อถือมากที่สุด ขณะที่ 15% เลือกนายแกรี จอห์น ตัวแทนจากพรรคลิเบอร์ทาเรียน และอีก 14% มองว่า นายโดนัล ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันเป็นผู้ที่มีความสามารถในการบริหารเศรษฐกิจมากที่สุด

ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์เสริมว่า ภารกิจหลัก 3 ประการที่ประธานาธิบดีคนต่อไปต้องเร่งดำเนินการแก้ไข คือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ การต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) และการปฏิรูปโครงสร้างภาษี

สำหรับประเด็นนโยบายการค้านั้น นักเศรษฐศาสตร์ 65% ระบุว่า รัฐบาลที่จะเข้ามาบริหารประเทศชุดต่อไปควรใช้นโยบายที่เปิดกว้างมากขึ้นและลดการกีดกันทางการค้า โดยมีเพียง 9% ที่ระบุว่า รัฐบาลควรใช้นโยบายกีดกันทางการค้าเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศของตนเอง (protectionism)

นอกจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์กว่า 60% คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นขึ้นสู่ระดับ 0.25-0.5% ภายในสิ้นปีนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ