นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน กล่าวว่า ตัวเลขการจ้างงานที่มีการเปิดเผยในวันนี้ บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังอยู่ในภาวะที่ย่ำแย่
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 161,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.9%
นอกจากนี้ กระทรวงยังรายงานว่า ตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ ได้เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ หรือ 0.4% ในเดือนต.ค. จากตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.3% ซึ่งหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตัวเลขรายได้ดังกล่าวจะพุ่งขึ้น 2.8% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 7 ปีครึ่ง หรือนับตั้งแต่กลางปี 2009
นายทรัมป์กล่าวว่า ตัวเลขเหล่านี้ ถือเป็นหายนะอย่างแท้จริง โดยการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นยังไม่ดีเพียงพอ และอัตราว่างงานก็ยังสูงเกินไป
นายทรัมป์ได้เคยกล่าวว่า ตัวเลขอัตราว่างงานที่กระทรวงแรงงานรายงานทุกเดือนไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง เนื่องจากทางกระทรวงไม่ได้นับรวมจำนวนชาวสหรัฐที่ได้ยุติการหางานทำ
เขากล่าวว่า ไม่มีใครเชื่อตัวเลขที่มีการรายงานเหล่านี้ .
อย่างไรก็ดี นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต กลับแสดงความยินดีต่อรายงานการจ้างงานของสหรัฐที่มีการเปิดเผยในวันนี้ โดยกล่าวว่า รายงานจ้างงานฉบับนี้ แสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐมีการขยายตัวติดต่อกันถึง 73 เดือน
นางฮิลลารีระบุว่า ตนเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้นอย่างจริงจัง และมีความรุ่งเรือง ซึ่งหากชนชั้นกลางมีความรุ่งเรือง อเมริกาก็มีความรุ่งเรือง
นอกจากนี้ นางฮิลลารียังได้โจมตีนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกันว่า เขาจะสร้างระบบเศรษฐกิจที่จะเอื้อประโยชน์สำหรับกลุ่มคนรวยที่สุดในอเมริกา ซึ่งรวมถึงครอบครัวของเขาเอง