ประธานาธิบดีอัสซัน โรฮานีของอิหร่าน ขู่ว่าจะถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ได้ลงนามร่วมกับ 6 ชาติมหาอำนาจเมื่อปี 2558 และจะเริ่มโครงการนิวเคลียร์อีกครั้ง หากสหรัฐใช้มาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่ออิหร่าน
"ประเทศใดที่พยายามกลับไปใช้ระบบการลงโทษและคุกคามชนชาติอื่น ประเทศนั้นก็เหมือนกับถูกจองจำอยู่ในมายาคติของอดีต" นายโรฮานีกล่าวในสุนทรพจน์ต่อรัฐสภา “และหากพวกเขายังไม่ยอมรามือ อิหร่านจะเริ่มต้นโครงการนิวเคลียร์ในประเทศทันที"
ทั้งนี้ เมื่อเดือนก.ค. ปี 2558 อิหร่านและ 6 ชาติมหาอำนาจ ซึ่งได้แก่ สหราชอาณาจักร จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี รัสเซีย และสหรัฐ ได้ลงนามใน "แผนปฏิบัติการร่วมฉบับสมบูรณ์" (Joint Comprehensive Plan of Action - JCPOA) อย่างเป็นทางการ ซึ่งในแผนการดังกล่าวนี้ อิหร่านได้ให้คำมั่นว่าจะระงับกิจกรรมต่างด้านนิวเคลียร์ๆ อาทิ การเสริมสมรรถนะยูเรเนียม เพื่อแลกกับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรในด้านพลังงานและการเงิน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านในระดับที่รุนแรงขึ้น โดยอ้างว่าอิหร่านยังคงพัฒนาโครงการขีปนาวุธ
นายโรฮานีกล่าวในช่วงท้ายของสุนทรพจน์ครั้งนี้ว่า สหรัฐกลายเป็นมิตรที่ไม่จริงใจ ด้วยการเพิกเฉิยต่อข้อตกลงต่างๆของนานาประเทศ ตั้งแต่ข้อตกลง JCPOA ไปจนถึงความตกลงปารีสว่าด้วยการแก้ปัญหาโลกร้อน และข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP)