กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศมาตรการคว่ำบาตรธนาคารรวม 8 แห่ง และบุคคลอีก 26 รายที่มีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายทางการเงินของเกาหลีเหนือ เพื่อลงโทษเกาหลีเหนือที่ยังคงเดินหน้าพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อย่างต่อเนื่อง อันเป็นเหตุให้เกิดความตึงเครียดขึ้นบนคาบสมุทรเกาหลี
กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยในแถลงการณ์เมื่อวานนี้ว่า คณะบุคคลที่ถูกคว่ำบาตรในครั้งนี้ประกอบด้วยบุคคลสัญชาติเกาหลีเหนือที่พำนักอยู่ในต่างประเทศและทำธุรกรรมในฐานะตัวแทนของธนาคารเกาหลีเหนือ
นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า "บทลงโทษครั้งใหม่นี้มุ่งเป้าไปที่ธนาคารเกาหลีเหนือ รวมถึงผู้ให้บริการทางการเงินที่ทำธุรกรรมในฐานะตัวแทนของธนาคารเกาหลีเหนือทั่วโลก"
ขุนคลังสหรัฐกล่าวเสริมว่า "นี่เป็นการเดินหน้ายุทธศาสตร์เพื่อโดดเดี่ยวเกาหลีเหนือ ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะทำให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดจากอาวุธนิวเคลียร์และเกิดสันติภาพอย่างแท้จริง"
นายมนูชิน ชี้แจงด้วยว่า มาตรการคว่ำบาตรฉบับใหม่นี้มีความสอดคล้องกับมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เนื่องจากการดำเนินมาตรการดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มมติคว่ำบาตรของ UNSC ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อลงโทษเกาหลีเหนือจากกรณีที่ทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งมีบทลงโทษตั้งแต่ระงับการส่งออกน้ำมันไปยังเกาหลีเหนือ ไปจนถึงการงดนำเข้าผลิตภัณฑ์สิ่งทอจากประเทศดังกล่าว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การออกมาตรคว่ำบาตรรอบใหม่ของสหรัฐมีขึ้นหลังจากที่ผู้นำเกาหลีเหนือและสหรัฐได้ทำสงครามน้ำลายกันอย่างดุเดือด โดยเกาหลีเหนือระบุว่า ถ้อยแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐสามารถนำไปตีความได้ว่า สหรัฐได้ประกาศสงครามกับเกาหลีเหนือแล้ว อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธในเวลาต่อมาว่า สหรัฐไม่มีเจตนารมณ์ที่จะใช้กำลังทหารเข้าแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี