นายแฟรงก์-วอลเตอร์ สไตน์ไมเออร์ ประธานาธิบดีเยอรมนี กล่าวในแถลงการณ์วันนี้ว่า เขาคาดหวังว่าทุกพรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาในรัฐสภา จะมีความพร้อมในการจัดตั้งรัฐบาล
"ทุกพรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาในสภา มีภาระผูกพันต่อผลประโยชน์ร่วมกันในการรับใช้ประเทศของเรา ผมจึงหวังว่าทุกพรรคการเมืองจะมีความพร้อมในการเจรจาเพื่อจัดตั้งรัฐบาลในอนาคตอันใกล้" เขากล่าว
นายสไตน์ไมเออร์กล่าว หลังจากที่นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ประสบความล้มเหลวในการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสม 3 ฝ่าย
ทั้งนี้ การประชุมร่วมระหว่างพรรครัฐบาลผสมซึ่งนำโดยนางแมร์เคิลจากฝ่ายอนุรักษ์นิยม (CDU/CSU), พรรค FDP และพรรคกรีน (Green Party) ยังคงไม่สามารถหาข้อสรุปได้ หลังที่ประชุมไม่สามารถหาข้อตกลงเกี่ยวกับกรอบความร่วมมือใหม่ของพรรครัฐบาลผสมภายใต้ชื่อ "กรอบความร่วมมือจาไมก้า" (Jamaica Coalition) ขณะที่มีความขัดแย้งกันเกี่ยวกับประเด็นผู้อพยพและสิ่งแวดล้อม
นายฮอลเบ ซิสตรา รมว.ต่างประเทศเนเธอร์แลนด์ กล่าวว่า ความล้มเหลวในการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลของเยอรมนี ถือเป็นข่าวร้ายของยุโรป เนื่องจากเยอรมนีเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของยุโรป และมีบทบาทสูงในสหภาพยุโรป
"ถือเป็นข่าวร้ายของยุโรปที่การจัดตั้งรัฐบาลของเยอรมนีต้องล่าช้าออกไป เพราะเยอรมนีถือเป็นประเทศที่มีอิทธิพลสูงในสหภาพยุโรป" นายซิสตรากล่าว