รองปธน.สหรัฐยันเข้าประชุมวุฒิสภาวันนี้ พร้อมลงคะแนนเสียงชี้ขาดต่อร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี

ข่าวการเมือง Tuesday December 19, 2017 23:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โฆษกของนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ ยืนยันในวันนี้ว่า นายเพนซ์จะเข้าเป็นประธานในการประชุมของวุฒิสภาสหรัฐในการลงมติต่อร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้ายในวันนี้

ขณะนี้ พรรครีพับลิกันมีวุฒิสมาชิกจำนวน 52 คน ขณะที่พรรคเดโมแครตมี 48 คน ในกรณีที่ทั้ง 2 พรรคมีการลงมติด้วยคะแนนเสียงเท่ากัน 50:50 นายเพนซ์จะต้องลงคะแนนเสียงชี้ขาด เพื่อให้ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีผ่านการรับรองจากวุฒิสภา

ก่อนหน้านี้ ทำเนียบขาวแถลงว่า นายเพนซ์จะเลื่อนกำหนดการเดินทางเยือนตะวันออกกลาง จากเดิมในสัปดาห์นี้ เป็นกลางเดือนหน้า เพื่อให้ความสำคัญต่อการลงมติร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของวุฒิสภาในวันนี้

อย่างไรก็ดี คาดว่าการเลื่อนการเดินทางของนายเพนซ์ยังมีสาเหตุจากกระแสความไม่พอใจของชาติตะวันออกกลาง หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศรับรองให้กรุงเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล และเปิดเผยแผนการย้ายสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐจากกรุงเทลอาวีฟไปยังกรุงเยรูซาเลม

สภาคองเกรสสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา มีกำหนดลงมติต่อร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้ายภายในวันนี้ทั้งสองสภา

ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรจะลงมติวันนี้ในเวลา 13.30 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือคืนนี้เวลา 01.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่วุฒิสภาจะลงมติในช่วงเย็นวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย

นายมิทช์ แมคคอนเนล แกนนำพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาสหรัฐ ยืนยันว่า วุฒิสภาจะทำการลงมติต่อร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้ายในช่วงเย็นวันนี้

"ขณะนี้ สภาคองเกรสกำลังใกล้จะสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหญ่" นายแมคคอนเนลกล่าว หลังประกาศกำหนดเวลาการลงมติของวุฒิสภา

หากสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาพร้อมใจกันอนุมัติร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีภายในวันนี้ ก็จะส่งผลให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์สามารถลงนามรับรองเป็นกฎหมายได้อย่างเร็วที่สุดในวันพรุ่งนี้ และถือเป็นการทำตามคำสัญญาของเขาที่จะมอบการปรับลดภาษีเป็นของขวัญวันคริสต์มาสแก่ชาวอเมริกัน

ทั้งนี้ ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้าย มาจากการรวมเนื้อหาของร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีที่ผ่านการอนุมัติของวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรก่อนหน้านี้ โดยร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้ายจะยังคงจำนวนขั้นบันไดของการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไว้ที่ 7 ขั้น คือที่ระดับ 10%, 12%, 22%, 24%, 32%, 35% และ 37% โดยลดอัตราภาษีขั้นสูงสุดสู่ระดับ 37% จากระดับ 39.6% ขณะเดียวกัน จะปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ลงสู่ระดับ 21% จากระดับ 35% โดยมีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ 1 ม.ค.ปีหน้า แทนที่จะชะลอออกไปอีก 1 ปีตามร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของวุฒิสภา

หากร่างกฎหมายดังกล่าวสามารถผ่านสภาคองเกรสในวันนี้ ก็จะถือเป็นการปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐนับตั้งแต่ปี 2529 หรือกว่า 30 ปี และจะถือเป็นชัยชนะครั้งแรกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสนับตั้งแต่ที่ปธน.ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งในเดือนม.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ