หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรของสหรัฐ (Immigration and Customs Enforcement - ICE) เปิดเผยในรายงานฉบับล่าสุดว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายได้เกือบ 150,000 คนในปีนี้
ICE ระบุในรายงานประจำปีว่า ICE ได้ดำเนินการควบคุมตัวบุคคลโดยอำนาจของฝ่ายบริหารไป 143,470 คน ในปีงบประมาณ 2560 เพิ่มขึ้นจากเมื่อปีที่แล้ว 30% โดยการควบคุมตัวบุคคลโดยอำนาจของฝ่ายบริหารในที่นี้ คือ การจับกุมคนต่างด้าวที่ละเมิดกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองที่ไม่ได้กระทำโดยอำนาจศาล แต่เป็นไปตามกฎหมายที่ให้อำนาจแก่ฝ่ายบริหาร ซึ่งจะถูกนำไปพิจารณาโดยตุลาการตรวจคนเข้าเมืองหรือผ่านกระบวนการด้านการบริหารอื่นๆ ต่อไป
รายงานระบุว่า การควบคุมตัวบุคคลลับลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายทั้งหมดตลอดปีที่ผ่านมา มีจำนวน 110,568 กรณีที่เกิดขึ้นหลังวันที่ 20 ม.ค. เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว 42%
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐได้สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาในวันที่ 25 ม.ค. เขาก็ได้ออกคำสั่งพิเศษประธานาธิบดีให้มีการบังคับใช้กฎหมายตรวจคนเข้าเมืองและยกเลิกการมอบสิทธิให้กับผู้อพยพ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นโยบายซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของทรัมป์ ทั้งในเรื่องคำสั่งห้ามพลเมืองจากชาติมุสลิมบางประเทศเดินทางเข้าสหรัฐ, การยกเลิกโครงการ DACA (Deferred Action for Childhood Arrivals) ที่ให้การคุ้มครองผู้อพยพที่เดินทางเข้าสหรัฐโดยผิดกฎหมายตั้งแต่เยาว์วัย และการถอนตัวของจากข้อตกลงในเรื่องผู้อพยพซึ่งนำโดยองค์การสหประชาชาติเพื่อให้การอพยพเป็นไปอย่างปกติเรียบร้อยและมีความปลอดภัย ได้จุดปะทุให้เกิดการประท้วงทั่วประเทศ
อย่างไรก็ดี ผู้สนับสนุนนโยบายดังกล่าวได้อ้างถึงปัญหาด้านความมั่นคงของประเทศ ขณะที่คนอื่นๆมองว่ามันเป็นการเลือกปฏิบัติ