สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ทางการญี่ปุ่นได้เข้าร่วมกับสมาชิกกลุ่ม G7 ชาติอื่นๆ ในวันนี้ เพื่อกล่าวหารัสเซียว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังกรณีใช้สารพิษทำลายระบบประสาทลอบสังหารอดีตสายลับรัสเซียและลูกสาวที่ลี้ภัยอยู่ในอังกฤษเมื่อเดือนที่ผ่านมา หลังจากที่ตลอดเวลาหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นได้เลี่ยงที่จะออกมากล่าวหารัสเซีย แถลงการณ์ที่เผยแพร่ในวันนี้ระบุว่า กลุ่มรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของชาติ G7 ได้สนับสนุนผลการค้นพบของอังกฤษที่ว่า "ขณะนี้ไม่มีคำอธิบายอื่นใดที่น่าเชื่อถือ" ไปกว่าการที่รัสเซียเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุอดีตสายลับชาวรัสเซีย เซอร์เก สกรีปอล และนางยูเลีย ผู้เป็นบุตรสาว ถูกลอบสังหารที่เมืองซาลิสเบอรี ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ที่ผ่านมา
นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ รัฐบาลญี่ปุ่นก็ได้ออกมาแสดงจุดยืนในกลุ่ม G7 แต่เป็นเพียงการประณามการใช้อาวุธเคมี ไม่ได้กล่าวถึงรัสเซียแต่อย่างใด โดยญี่ปุ่นนั้นกำลังพยายามเจรจากับรัสเซียเพื่อที่จะทำให้เกิดความก้าวหน้าเรื่องข้อพิพาทด้านดินแดน
นายทาโร โคโนะ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของญี่ปุ่น ได้แถลงที่กรุงโตเกียวในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นยังคงมีความหวังว่า ท้ายที่สุดแล้วข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวจะปรากฏให้เห็น จากการสอบสวนเพิ่มเติมโดยองค์การห้ามอาวุธเคมี (OPCW) และตำรวจอังกฤษ
ด้านนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น มีกำหนดการเดินทางเยือนรัสเซียเดือนหน้า เพื่อเจรจากับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย โดยมีเป้าหมายเพื่อหารือในประเด็นหมู่เกาะที่เป็นข้อพิพาทมาอย่างยาวนานระหว่างรัสเซียและญี่ปุ่น
หมู่เกาะดังกล่าวซึ่งญี่ปุ่นเรียกว่า "ดินแดนตอนเหนือ" (Northern Territories) ส่วนรัสเซียเรียกว่า "หมู่เกาะคูริลส์ใต้" (Southern Kurils) นั้นเป็นหมู่เกาะที่ถูกสหภาพโซเวียตยึดครองไปตั้งแต่ช่วงสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งส่งผลให้ทั้ง 2 ประเทศเกิดความขัดแย้งในเรื่องอำนาจอธิปไตยจนไม่สามารถลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ร่วมกันได้