ฝ่ายข่าวกรองของสหรัฐยังคงยืนยันผลการประเมินที่ว่า รัสเซียได้แทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อปี 2559 หลังจากที่ก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมง นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ดูเหมือนจะเชื่อคำพูดของรัฐบาลรัสเซียในประเด็นดังกล่าว
นายแดเนียล โค้ทส์ ผู้อำนวยการฝ่ายข่าวกรองแห่งสหรัฐ ระบุในแถลงการณ์ว่า ฝ่ายข่าวกรองยังเชื่ออีกด้วยว่า รัสเซียจะยังคง "พยายามบั่นทอนประชาธิปไตยของสหรัฐต่อไป" และเตือนว่า รัฐบาลรัสเซียอาจแทรกแซงการเลือกตั้งกลางสมัยในเดือนพ.ย.นี้ด้วย
"ฝ่ายข่าวกรองมีหน้าที่ให้ข้อมูลที่ดีที่สุดรวมถึงผลการประเมินที่อ้างอิงจากข้อเท็จจริงแก่ประธานาธิบดีและผู้กำหนดนโยบาย" นายโค้ทส์ กล่าว "เรามีจุดยืนชัดเจนว่า รัสเซียได้แทรกแซงการเลือกตั้งเมื่อปี 2559 และยังมีพฤติกรรมบั่นทอนประชาธิปไตยของสหรัฐอย่างต่อเนื่องและแพร่หลาย"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ ได้พบปะกับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เมื่อคืนนี้ที่กรุงเฮลซิงกิ เมืองหลวงของฟินแลนด์ โดยปธน.ทรัมป์ได้กล่าวระหว่างการแถลงข่าวว่า "แดน โค้ทส์ และคนอื่นๆได้มาหาผม เพื่อบอกว่าพวกเขาเชื่อว่ารัสเซียอยู่เบื้องหลัง และผมก็ได้พบกับปธน.ปูติน เขาบอกว่ารัสเซียไม่เกี่ยว"
ปธน.สหรัฐ กล่าวว่า "ผมจะบอกว่า ผมไม่เห็นเหตุผลว่าทำไมรัสเซียถึงเกี่ยวข้อง"
ด้านปธน.ปูตินได้กล่าวย้ำว่า รัสเซียไม่ได้เข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งเมื่อปี 2559 เพื่อให้ปธน.ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง โดยปธน.ปูตินได้กล่าวและมีล่ามแปลว่า รัฐบาลรัสเซีย "ไม่เคยแทรกแซงและจะไม่แทรกแซงกิจการภายในของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงกระบวนการเลือกตั้ง"
ปธน.ทรัมป์ เปิดเผยว่า แม้เขามี "ความเชื่อมั่นอย่างยิ่ง" ต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวกรองของสหรัฐ แต่ปธน.ปูติน "มีจุดยืนที่แข็งกร้าวและเด็ดเดี่ยวมากว่ารัสเซียไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง"
ปธน.ปูติน เปิดเผยว่า ตนต้องการให้ปธน.ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง เพราะตอนที่ปธน.ทรัมป์หาเสียงนั้น เขาได้ "กล่าวถึงการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับรัสเซียสู่ภาวะปกติ"