กระทรวงกลาโหมของสหรัฐ หรือเพนตากอน เปิดเผยว่า กองทัพจีนขยายปฎิบัติการซ้อมบินทิ้งระเบิดในทะเล ซึ่งคาดว่าจะเป็นการฝึกซ้อมทางทหาร เพื่อโจมตีสหรัฐและประเทศพันธมิตร รวมถึงญี่ปุ่น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เพนตากอนได้เปิดเผยในรายงานประจำปีต่อสภาคองเกรสในประเด็นพัฒนาการทางทหารและความมั่นคงที่เกี่ยวข้องกับประเทศจีน โดยอ้างถึงกรณีที่เครื่องบินทิ้งระเบิด 6 ลำของกองทัพอากาศจีนที่บินผ่านช่องแคบมิยาโกะ ทางตอนใต้ของเกาะโอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนสิงหาคม 2560 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เครื่องบินบินขึ้นไปทางตอนเหนือ เพื่อไปทางทิศตะวันออกของเกาะโอกินาว่าและเลยขึ้นไปไกลทางตอนเหนือจนถึงคาบสมุทรคิอิ ทางตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น
แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า "เที่ยวบินดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถของเครื่องบินรบแบบ H-6K ในการปฏิบัติภารกิจโจมตีนอกแนวแกนถล่มฐานที่มั่นของสหรัฐและชาติพันธมิตรได้ และก่อนหน้านี้กองทัพจีนยังแสดงให้เห็นถึงความทนทานต่อการบินของเครื่องบินทิ้งระเบิด H-6K ซึงเผยเป็นนัยถึงภารกิจที่อาจส่งอากาศยานรบบินเข้าใกล้ญี่ปุ่น ประชิดแนวชายฝั่งฟิลิปปินส์และใช้พื้นที่ปฎิบัติการที่กว้างขึ้นทั่วทะเลฟิลิปปินส์ มากกว่าปฎิบัติการของกองทัพอากาศจีนในปัจจุบัน
รายงานยังระบุด้วยว่า ขีดความสามารถของเครื่องบินทิ้งระเบิด H-6K ช่วยให้กองทัพอากาศจีนสามารถโจมตีเกาะกวมของสหรัฐได้ด้วยขีปนาวุธโจมตีภาคพื้นต่อต้านเรือรบได้
ทั้งนี้ เมื่อปีที่แล้ว เครื่องบินทิ้งระเบิดของกองทัพอากาศจีนทำการบินผ่านเส้นทางต่างๆมากกว่า 10 ครั้ง มุ่งหน้าไปยังทะเลญี่ปุ่น จนถึงแปซิฟิกตะวันตก รอบเกาะไต้หวัน ตลอดจนเหนือทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้
เพนตากอนเตือนว่า กองทัพอากาศจีนอาจเดินหน้าขยายภารกิจให้ไกลเกินกว่าพื้นที่ที่เรียกกันว่าแนวห่วงโซ่ปราการของเกาะชั้นแรก ครอบคลุมตั้งแต่หมู่เกาะญี่ปุ่น ผ่านเกาะไต้หวันจนถึงฟิลิปปินส์ เพื่อเป็นการแสดงขีดความสามารถในการโจมตีกองทัพสหรัฐและกองกำลังชาติพันธมิตร ตลอดจนฐานทัพทหารในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก รวมถึงเกาะกวม
นอกจากนี้ เพนตากอนยังตั้งข้อสังเกตว่า กองทัพอากาศจีนอาจใช้ภารกิจทางการบินดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณทางยุทธศาสตร์ไปยังภูมิภาคต่างๆ แม้จนถึงขณะนี้ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดเกี่ยวกับเจตนารมณ์ของสัญญาณดังกล่าวว่ามีนัยสำคัญนอกเหนือไปจากการสาธิตขีดความสามารถของเครื่องบินทิ้งระเบิดที่ดีขึ้นหรือไม่