ประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานี แห่งอิหร่าน กล่าวโจมตีสหรัฐว่าเป็น "ผู้ก่อการร้ายทางเศรษฐกิจ" เนื่องจากสหรัฐประกาศรื้อฟื้นมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน หลังที่สหรัฐเองได้ถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558
"มาตรการคว่ำบาตรที่เกิดขึ้นจากฝ่ายเดียวและไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น เป็นรูปแบบหนึ่งของการก่อการร้ายทางเศรษฐกิจ และเป็นการละเมิดสิทธิในการพัฒนา" นายรูฮานีกล่าวต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA)
"สงครามเศรษฐกิจที่สหรัฐดำเนินการภายใต้มาตรการคว่ำบาตรนั้น ไม่เพียงแต่มุ่งเป้าไปที่ชาวอิหร่านเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อประชาชนของประเทศอื่นๆ และสงครามครั้งนี้ยังส่งผลให้การค้าโลกหยุดชะงักด้วย" นายรูฮานีกล่าว
นายรูฮานี กล่าวหาปธน.ทรัมป์ แม้ไม่ระบุชื่อโดยตรง โดยกล่าวว่า "ผู้ที่มีแนวคิดเป็นปฎิปักษ์ต่อแนวคิดพหุภาคีนิยมแสดงให้ถึงการขาดสติปัญญา การเผชิญหน้ากับพหุภาคีไม่ได้แสดงถึงความแข็งแกร่ง แต่เป็นอาการของความอ่อนแอด้านสติปัญญามากกว่า รวมถึงเป็นการทรยศต่อความสามารถในการทำความเข้าใจโลกที่ซับซ้อนและเชื่อมต่อกันได้"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทรัมป์กล่าวโจมตีต่ออิหร่านในประเด็นโครงการอาวุธนิวเคลียร์และการสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายในตะวันออกกลาง และเรียกร้องให้นานาประเทศแยกตัวออกจากอิหร่าน ตราบเท่าที่ "ความแข็งกร้าว" ยังคงดำเนินต่อไป
ทั้งนี้ ในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ทรัมป์ยังได้กล่าวปกป้องกรณีการนำสหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 รวมถึงการรื้อฟื้นมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน ว่า "ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านเป็นลาภลอยสำหรับผู้นำอิหร่าน"