ภาคธุรกิจของอังกฤษได้วิพากษ์วิจารณ์นักการเมืองที่มีแต่สร้างความขัดแย้ง แทนที่จะเตรียมการสำหรับการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
นอกจากนี้ ผู้นำในภาคธุรกิจยังเตือนว่า ขณะนี้แทบไม่มีเวลาเพียงพอในการเตรียมพร้อมรับมือกรณีที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) โดยไม่มีการทำข้อตกลง เนื่องจากเหลือเวลาอีกเพียง 100 วันก่อนถึงวันที่ 29 มี.ค.2562 ซึ่งอังกฤษจะต้องแยกตัวจาก EU อย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ สภาหอการค้าอังกฤษ, สมาพันธ์อุตสาหกรรมอังกฤษ, สมาคมผู้ผลิตแห่งอังกฤษ, สหพันธ์ธุรกิจรายย่อย และสถาบันผู้อำนวยการ ร่วมกันออกแถลงการณ์ ระบุว่า "ภาคธุรกิจกำลังมองดูด้วยความตื่นตระหนกที่เห็นว่านักการเมืองให้ความสนใจต่อการสร้างความขัดแย้ง มากกว่าการดำเนินการไปข้างหน้าตามที่ภาคธุรกิจต้องการ ซึ่งการขาดความคืบหน้าในรัฐสภาบ่งชี้ถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นต่อการที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป โดยไม่มีการทำข้อตกลง"
ผู้นำในภาคธุรกิจระบุว่า แทนที่จะนำเงินไปลงทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต แต่บริษัทต่างๆกลับต้องเจียดเงินทุนในการวางแผนสำหรับการรับมือกรณีที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป โดยไม่มีการทำข้อตกลง
คณะรัฐมนตรีอังกฤษได้จัดการประชุมวานนี้ เพื่อหารือการเตรียมการรับมือในกรณี Brexit ที่ไม่มีการทำข้อตกลง โดยรัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณจำนวน 2 พันล้านปอนด์ (2.5 พันล้านดอลลาร์) เพื่อรองรับความผันผวนทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นจากกรณีดังกล่าว
นายแกวิน วิลเลียมสัน รมว.กลาโหมอังกฤษ กล่าวว่า กองทัพจะจัดเตรียมกำลังทหารในการให้การสนับสนุนต่อรัฐบาล หากเกิดการจลาจลในประเทศ ในกรณีที่อังกฤษแยกตัวออกจาก EU โดยไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในวันที่ 29 มี.ค.ปีหน้า
นายวิลเลียมสันกล่าวว่า ถึงแม้ว่าทางกองทัพยังไม่ได้รับการร้องขออย่างเป็นทางการให้เข้าช่วยเหลือรัฐบาลในการรักษาความสงบในประเทศ แต่ทางกองทัพก็จะจัดเตรียมกำลังพลจำนวน 3,500 นาย ซึ่งรวมทั้งทหารที่รับราชการในปัจจุบัน และทหารกองหนุน เพื่อรองรับความต้องการจากหน่วยงานใดๆของรัฐบาลที่ต้องการความช่วยเหลือ