นางเดนา ไวท์ โฆษกหญิงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง ท่ามกลางข่าวลือที่ว่า เธอถูกกระทรวงกลาโหมสอบสวนเป็นการภายใน เนื่องจากปฎิบัติไม่ดีต่อเจ้าหน้าที่คนอื่นๆในองค์กร
นางไวท์ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า "ดิฉันขอบคุณโอกาสจากรัฐบาลชุดนี้ ที่ให้ดิฉันมีโอกาสรับใช้ชาติเคียงบ่าเคียงไหล่กับท่านรัฐมนตรีเจมส์ แมตทิส เจ้าหน้าที่ทุกท่าน และประชาชนทุกคนที่สนับสนุนพวกเขา นับเป็นเกียรติและเป็นโอกาสอันดีของดิฉัน"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การประกาศลาออกจากตำแหน่งของนางไวท์เกิดขึ้นภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่นายแมตทิสได้พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ แม้ยังไม่มีการชี้แจงที่แน่ชัดว่าเหตุใดนางไวท์จึงลาออก แต่สื่อท้องถิ่นรายงานว่า นางไวท์กำลังถูกทางกระทรวงสอบสวนเป็นการภายใน หลังจากเกิดข้อกล่าวหาตั้งแต่เมื่อเดือนพ.ค.ปีที่แล้วว่า เธอปฏิบัติไม่ดีต่อเจ้าหน้าที่คนอื่นๆในองค์กร
เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายเจมส์ แมตทิส ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐ เนื่องจากมีความคิดเห็นด้านนโยบายที่แตกต่างจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และในเวลาต่อมา ปธน.ทรัมป์ได้ประกาศแต่งตั้งนายแพทริค แชนาแฮน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ดำรงตำแหน่งรักษาการรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม โดยนายแชนาแฮนจะเริ่มทำหน้าที่ดังกล่าวตั้งแต่เดือนม.ค.นี้ การประกาศลาออกของนายแมตทิสมีขึ้นหลังจากที่ปธน.ทรัมป์ได้สั่งการให้มีการถอนกำลังทหาร 2,000 นายออกจากซีเรีย และประกาศชัยชนะเหนือกลุ่มรัฐอิสลาม (IS)
ทั้งนี้ นายแมตทิสเป็นผู้ริเริ่มให้มีการนำทหารสหรัฐเข้าไปประจำการระยะยาวในซีเรีย ขณะที่ลินซีย์ เกรแฮม วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันซึ่งต่อต้านการตัดสินใจของทรัมป์ในการถอนทหารออกจากซีเรียนั้น กล่าวว่า นายแมตทิสเชื่อมั่นว่า ภารกิจในซีเรียยังไม่เสร็จสิ้น