นักวิชาการด้านการเมืองได้ออกมาแสดงความเห็นเป็นครั้งแรกต่อการจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรพรรคผสมขึ้นใหม่ในสภาผู้แทนราษฏรอังกฤษเมื่อวานนี้
คำถามใหญ่ในขณะนี้คือ กลุ่มส.ส.อิสระที่เรียกตนเองว่ากลุ่ม Independent Group ซึ่งตอนนี้มีสมาชิก 11 คนนั้น จะสามารถก่อตั้งขึ้นเป็นพรรคการเมืองสายกลางใหม่ของอังกฤษที่จะสามารถท้าทายอำนาจทางการเมืองที่ครอบงำโดยพรรคอนุรักษ์นิยมและพรรคแรงงานซึ่งเป็นสองพรรคการเมืองใหญ่มานานกว่า 1 ศตวรรษ ได้หรือไม่
การลาออก
ในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ส.ส.ของพรรคแรงงานจำนวน 8 คนได้ลาออกจากพรรคเพื่อไปจัดตั้งกลุ่มการเมืองใหม่ และมีส.ส.ที่สนับสนุนสหภาพยุโรป (EU) จำนวน 3 คนจากพรรคอนุรักษ์นิยมเข้าร่วมด้วย โดยส.ส. 3 คนดังกล่าวระบุว่า ฟางเส้นสุดท้ายสำหรับพวกเขาก็คือ การที่รัฐบาลจัดการกับกระบวนการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) อย่างไร้ประสิทธิภาพ
นับเป็นเรื่องที่น่าอัปยศอดสูมากที่สุดในแวดวงการเมืองอังกฤษ นับตั้งแต่นักการเมืองกลุ่ม Gang of Four ได้ลาออกจากพรรคแรงงาน เพื่อจัดตั้งพรรคสังคมนิยมประชาธิปไตย (SDP)
ทั้งนี้ สมาชิกก่อตั้ง 11 คนของกลุ่ม Independent Group ได้ต่อต้านการเรียกร้องให้พวกเขาลาออกจากการเป็นส.ส.เพื่อลงเลือกตั้งใหม่ในเขตเลือกตั้งของพวกเขาภายใต้พรรคใหม่ของพวกเขา
แต่ภายใต้กฎหมายเลือกตั้งของอังกฤษนั้น พวกเขาสามารถย้ายพรรค และยังคงทำหน้าที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ไปจนถึงการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้าซึ่งจะจัดขึ้นในปี 2565
บรรดาส.ส.ที่ลาออกจากพรรคของตนเองระบุว่า สาเหตุที่ลาออกก็เพราะ พวกเขาไม่พอใจกับแนวทางของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และนายเจเรมี คอร์บิน หัวหน้าพรรคแรงงาน ในการจัดการกับ Brexit
นอกจากนี้ อดีตส.ส.ของพรรคแรงงานยังไม่พอใจกับนายคอร์บิน โดยระบุว่า นายคอร์บินล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาการต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติภายในพรรคแรงงาน
ด้านนายกรัฐมนตรีเมย์ได้แสดงความผิดหวังต่อการลาออกของส.ส.ของพรรค 3 คน ก่อนเธอเดินทางไปยังกรุงบรัสเซลส์เพื่อเจรจาครั้งใหม่เรื่อง Brexit กับนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC)
สำหรับส.ส.กบฎทั้ง 11 คนต้องการให้รัฐบาลอังกฤษตัดโอกาสในการออกจาก EU แบบไม่มีข้อตกลง และพวกเขายังเรียกร้องให้จัดการลงมติของประชาชน ซึ่งเท่ากับเป็นการลงประชามติทั่วประเทศรอบ 2 ต่อประเด็นการเป็นสมาชิก EU
ผู้เปลี่ยนเกม
ศาสตราจารย์แอนโธนี กลีส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองจากมหาวิทยาลัยบั๊คกิ้งแฮมเปิดเผยกับซินหัวว่า กลุ่ม Independent Group อาจเป็นผู้เปลี่ยนเกม
ศาสตราจารย์กลีส์ ผู้อำนวยการของศูนย์ศึกษาด้านความมั่นคงและข่าวกรอง (BUCSIS) ที่มหาวิทยาลัยบัคกิ้งแฮม เปิดเผยกับซินหัวว่า "การเมืองของอังกฤษติดอยู่ในวิกฤตแห่งการดำรงอยู่ (existential crisis) ที่ฝังรากลึกในขณะนี้ และไม่มีใครสามารถทำนายได้อย่างถูกต้องว่า เราจะหลุดพ้นจากวิกฤตนั้นได้หรือไม่ และอย่างไร ด้วยเสถียรภาพและเศรษฐกิจของเรา"
"ผมเชื่อว่า กลุ่มการเมืองใหม่นี้อาจเป็นผู้เปลี่ยนเกม และอาจมีความสำคัญเท่ากับการก่อตั้งพรรค SDP เมื่อ 40 ปีก่อน" เขากล่าว
ศาสตราจารย์กลีส์ระบุว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการพัฒนาของกลุ่มการเมืองใหม่นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกเขาจะได้รับการสนับสนุนจำนวนมากจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งของพรรคแรงงานหรือไม่ และส.ส. 3 คนจากพรรคอนุรักษ์นิยมซึ่งได้แก่ นางไฮดี้ อัลเลน นางแอนนา โซบรี และนางซาราห์ โวลลัสตัน ก็จะพยายามทำสิ่งเดียวกันที่เกี่ยวกับพรรคของพวกเขา
"หากพรรคแรงงานอ่อนแอลงตามที่เราคาดไว้ ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับพรรคอนุรักษ์นิยม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นของส.ส.กลุ่มวิจัยยุโรป (European Research Group) ซึ่งเป็นฝ่าย Hard Brexiter ของพรรคอนุรักษ์นิยม"
"นั่นก็เป็นเพราะ พวกเขาไม่คิดว่า นายคอร์บินจะสามารถชนะการเลือกตั้งทั่วไปในทุกกรณี แต่ด้วยการแยกพรรค นายคอร์บินยิ่งมีโอกาสน้อยลงที่จะเข้าไปนั่งทำงานในทำเนียบนายกรัฐมนตรีที่ดาวน์นิ่ง สตรีท" ศาสตราจารย์กลีส์กล่าว
นอกจากนี้ ศาสตราจารย์กลีส์ยังคาดว่า 'การลงคะแนนเสียงของประชาชน' (people's vote) เพื่อกำหนดอนาคตของอังกฤษใน EU นั้น ยังอยู่อีกไกล ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นในระยะใกล้ๆ นี้
สำหรับสถานการณ์ที่น่าประหลาดใจของรัฐสภาอังกฤษที่เวสมินสเตอร์นั้น ศาสตราจารย์กลีส์กล่าวว่า จะให้ความสนใจกับความคิดของสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมที่สนับสนุนแนวคิดการยังคงอยู่ร่วมกับ EU (Remain) และแนวคิดการถอนตัวแบบมีข้อตกลง (Soft-Brexit) ซึ่งก็จะอธิบายถึงการแยกตัวของส.ส. 3 คนจากพรรคอนุรักษ์นิยมด้วย
บททดสอบที่จริงของกลุ่ม Independent Group ก็คือ จะมีส.ส.แปรพักต์จำนวนมากขึ้นมาเข้าร่วมกับแก๊ง 11 คน (Gang of 11) หรือไม่ และจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อนางเมย์เสนอข้อตกลง Brexit ของเธอให้สภาผู้แทนราษฎรอังกฤษพิจารณาอีกครั้งในวันที่ หรือก่อนวันที่ 27 ก.พ.นี้
รายงานของสื่อในกรุงลอนดอนเมื่อวานนี้ คาดการณ์ว่า นางเมย์อาจเลื่อนการลงมติของรัฐสภาต่อข้อตกลงของเธอให้เร็วขึ้น หลังจากอ้างว่ารัฐมนตรีจำนวนหนึ่งของเธอเตรียมที่จะลาออก
ทั้งนี้ ศาสตราจารย์กลีส์คาดว่า "หากกระแสการรวมกลุ่มการเมืองใหม่เริ่มแผ่วลง ก็มีแนวโน้มเป็นไปได้มากขึ้นที่อังกฤษจะออกจาก EU ในวันที่ 29 มี.ค.นี้"