คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) ระบุว่า ขณะนี้มีแนวโน้มที่อังกฤษจะแยกตัวออกจาก EU (Brexit) ในวันที่ 12 เม.ย.โดยไม่มีข้อตกลง หลังจากที่รัฐสภาอังกฤษมีมติคว่ำข้อตกลง Brexit เป็นครั้งที่ 3 ในวันนี้
"EC มีความเสียใจต่อการลงมติของสภาสามัญชนในวันนี้" แถลงการณ์ของ EC ระบุ
"EU จะให้เวลาอังกฤษจนถึงวันที่ 12 เม.ย.ในการรายงานสิ่งที่อังกฤษจะดำเนินการในขั้นตอนต่อไป และขณะนี้มีแนวโน้มที่อังกฤษจะแยกตัวออกจาก EU ในวันที่ 12 เม.ย.โดยไม่มีข้อตกลง ซึ่ง EU ก็ได้เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ในการรับมือกับสภาวการณ์ดังกล่าวที่จะเกิดขึ้นในช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 12 เม.ย." แถลงการณ์ของ EC ระบุ
ทางด้านนายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานคณะมนตรียุโรป ทวีตข้อความระบุว่า ผู้นำ EU จะจัดการประชุมในวันที่ 10 เม.ย.เพื่อหารือเกี่ยวกับการแยกตัวของอังกฤษออกจาก EU
ทั้งนี้ สภาสามัญชนของอังกฤษมีมติด้วยคะแนนเสียง 344 ต่อ 286 เสียงในวันนี้ คว่ำข้อตกลง Brexit เป็นครั้งที่ 3
สิ่งที่รัฐสภาลงมติในวันนี้ คือข้อตกลงถอนตัว (Withdrawal Agreement) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลง Brexit ที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ทำไว้กับผู้นำ EU ก่อนหน้านี้ โดยรัฐสภายังไม่ได้พิจารณาปฏิญญาทางการเมือง (Political Declaration) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลง Brexit เช่นกัน
ก่อนหน้านี้ รัฐสภาได้ลงมติด้วยคะแนนเสียงถล่มทลาย 432 ต่อ 202 เสียงในเดือนม.ค. คว่ำข้อตกลง Brexit ก่อนที่จะลงมติอีกครั้งเมื่อวันที่ 12 มี.ค.ด้วยคะแนนเสียง 391-242 เสียงคว่ำข้อตกลง Brexit เป็นครั้งที่ 2 แม้ว่าได้รับการแก้ไขจากนางเมย์ หลังมีการหารือกับผู้นำ EU
การที่ข้อตกลง Brexit ไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาอังกฤษในวันนี้ ทำให้อังกฤษสามารถขยายเวลาการบังคับใช้มาตรา 50 ออกไปเป็นวันที่ 12 เม.ย.เท่านั้น จากเดิมที่อังกฤษมีกำหนดแยกตัวอย่างเป็นทางการในวันนี้
หากรัฐสภาอังกฤษลงมติอนุมัติข้อตกลง Brexit ในวันนี้ EU ก็ได้ตกลงที่จะขยายเวลาการบังคับใช้มาตรา 50 ออกไปจนถึงวันที่ 22 พ.ค.