สถานีโทรทัศน์ฮ่องกงเคเบิลทีวีนิวส์รายงานว่า จำนวนผู้ประท้วงต่อต้านร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ ณ เวลา 21.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นเมื่อคืนนี้ มีสูงถึง 1.03 ล้านคนแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจประเมินว่ามีผู้เข้าร่วมพร่อมกันสูงสุดที่ 240,000 คน
เจ้าหน้าที่ตำรวจรายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงจำนวนได้ปิดถนนรอบสภานิติบัญญัติฮ่องกง เพื่อเรียกร้องให้นางแคร์รี แลม ผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกงลาออก
การประท้วงเกิดขึ้นในช่วงเวลากลางคืนของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ปราบปรามจลาจลได้ใช้สเปรย์พริกไทยและไม้กระบองเพื่อสลายกลุ่มผู้ประท้วงที่ใช้ความรุนแรงโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสามารสลายกลุ่มผู้ประท้วงได้ในเวลาประมาณ 6.00 น. ของเช้าวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น
สำหรับการชุมนุมดังกล่าว มีเป้าหมายเพื่อประท้วง "การปรับแก้กฎหมายว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดนของฮ่องกง" ที่เสนอโดยรัฐบาลฮ่องกง ซึ่งแต่เดิมนั้น ฮ่องกงจะสามารถส่งผู้ร้ายหลบหนีต่างชาติกลับไปยังเขตอำนาจศาลของประเทศนั้นๆ ได้ก็ต่อเมื่อมีความตกลงส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน แต่ฮ่องกงนั้นไม่สามารถทำความตกลงในเรื่องดังกล่าวกับจีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน และเขตบริหารพิเศษมาเก๊าได้เนื่องจากช่องโหว่ทางกฎหมาย ดังนั้นแล้ว รัฐบาลฮ่องกงจึงได้เสนอให้มีการปรับแก้ กฎหมายดังกล่าว เพื่อให้ฮ่องกงสามารถส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปให้ประเทศหรือเขตอำนาจศาลที่ไม่ได้ทำความตกลงส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกันได้ ซึ่งรวมถึงจีนแผ่นดินใหญ่ โดยฮ่องกงจะใช้วิธีพิจารณาเป็นกรณี และมีเงื่อนไขหลายอย่างที่การยื่นขอรับผู้ร้ายข้ามแดนกลับในแต่ละกรณีจะต้องเข้าข่ายตามที่ฮ่องกงกำหนด
ทั้งนี้ รัฐบาลฮ่องกงกำลังเผชิญแรงกดดันครั้งใหม่ให้ยกเลิกร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ โดยผู้ชุมนุมมาจากหลากหลายภาคส่วน รวมทั้งภาคธุรกิจ กลุ่มศาสนา ภาคการศึกษา และสื่อมวลชน ซึ่งได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับกรณีที่ว่า พวกเขาไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะถูกเจ้าหน้าที่จีนกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรม และไม่ไว้วางใจในกระบวนการยุติธรรมของจีน