คณะกรรมาธิการประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้ออกหมายศาลไปยังนายกอร์ดอน ซอนด์แลนด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหภาพยุโรป เพื่อให้นายซอนด์แลนด์เข้าให้การต่อทางคณะกรรมาธิการในคดีที่เกี่ยวข้องกับการถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
การออกหมายศาลดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้ขัดขวางมิให้นายซอนด์แลนด์เข้าให้การต่อสภาคองเกรส
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายซอนด์แลนด์ถูกเรียกตัวเพื่อชี้แจงสิ่งที่ตนรู้เกี่ยวกับการติดต่อระหว่างรัฐบาลสหรัฐกับยูเครน ต่อคณะกรรมการข่าวกรอง คณะกรรมาธิการตรวจสอบและปฏิรูป และคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ โดยคณะกรรมาธิการทั้ง 3 ชุดนี้ ได้นำร่องกระบวนการถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่ง และขณะนี้ก็พยายามเร่งรัดกระบวนการดังกล่าว
หมายศาลดังกล่าวออกโดยคณะกรรมการข่าวกรอง จากการปรึกษากับคณะกรรมการอีก 2 ชุด ซึ่งกำหนดให้นายซอนด์แลนด์ยื่นเอกสารภายในวันที่ 14 ต.ค. นอกจากนี้ นายซอนด์แลนด์ยังต้องขึ้นให้การในวันที่ 16 ต.ค. ด้วย หลังจากที่ไม่ปรากฏตัวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
นายอดัม ชิฟฟ์ ประธานคณะกรรมาธิการข่าวกรอง, นายอีเลียต เอนเจล ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ และนายเอไลจาห์ คุมมิงส์ ประธานคณะกรรมาธิการตรวจสอบและปฏิรูป ระบุในหนังสือถึงนายซอนด์แลนด์ว่า "เมื่อรมว.ปอมเปโอได้เข้าแทรกแซงไม่ให้ท่านปรากฏตัวต่อคณะกรรมาธิการ เราจึงหมดตัวเลือกอื่นจนต้องบังคับให้ท่านออกมาให้การตามหมายศาลที่แนบมาด้วยนี้"
ก่อนหน้านี้ นายโรเบิร์ต ลัสกิน ทนายความประจำตัวนายซอนด์แลนด์ เปิดเผยว่า ทางกระทรวงต่างประเทศได้ขัดขวางไม่ให้นายซอนด์แลนด์เข้าให้การ โดยไม่ได้ให้เหตุผลที่สั่งห้าม และเพิ่มเติมว่า นายซอนด์แลนด์ "รู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งที่เขาขึ้นให้การวันนี้ไม่ได้"
ทั้งนี้ นายซอนด์แลนด์ถือเป็นพยานคนสำคัญในคดีที่ปธน.ทรัมป์ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เพื่อกดดันให้มีการสอบสวนนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ และบุตรชายของเขา ซึ่งมีการทำธุรกิจในยูเครน โดยการกระทำดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการเปิดทางให้รัฐบาลต่างชาติเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐ ซึ่งอาจส่งผลให้ปธน.ทรัมป์ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง