ประธานาธิบดีเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ผู้นำตุรกี มีกำหนดการเยือนประเทศยูเครนเพื่อพบกับปธน.โวโลดิเมียร์ เซเลนสกีแห่งยูเครนในวันนี้ หลังจากที่ตุรกีเสนอขอเป็นคนกลางสลายความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน
เจ้าหน้าที่ตุรกีรายหนึ่งเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ปธน.เออร์โดกันประกาศไม่เลือกข้างฝ่ายไหนในวิกฤตครั้งนี้ และทางตุรกีคาดว่าความขัดแย้งดังกล่าวจะคลี่คลายหลังการประชุมในยูเครน โดยเมื่อวานนี้ (2 ก.พ.) ตุรกีกับยูเครนกล่าวว่าจะร่วมลงนามในความตกลงการค้าเสรี ตลอดจนข้อตกลงอื่น ๆ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่คณะผู้นำของประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต (NATO) ทั้งอังกฤษ, โปแลนด์ และเนเธอร์แลนด์ เดินทางมาเยือนยูเครนในกรณีปัญหาความขัดแย้งดังกล่าว
แม้ทางตุรกีมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับทั้งยูเครนและรัสเซีย แต่ก็ได้กล่าวว่าจะดำเนินการตามความจำเป็นในฐานะประเทศสมาชิกของนาโตหากรัสเซียบุกยูเครน
ทั้งนี้ รัสเซียได้ตรึงกำลังพลกว่า 100,000 นายตามแนวพรมแดนยูเครน ซึ่งสร้างความกังวลว่าอาจนำไปสู่สงคราม แม้รัสเซียจะปฏิเสธว่าไม่มีแผนบุกยูเครนก็ตาม พร้อมทั้งเรียกร้องหลักประกันด้านความมั่นคง รวมถึงสัญญาจากนาโตว่าจะไม่รับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก
เจ้าหน้าที่ของตุรกีอีกรายเปิดเผยว่า ปธน.เออร์โดกันจะเรียกร้องให้ทั้ง 2 ฝ่ายมีความอดทนอดกลั้นต่อกัน พร้อมเสริมว่าตุรกีปรารถนาจะร่วมมือกับทั้ง 2 ประเทศ "ที่สำคัญยิ่ง" แห่งนี้
"แนวทางของตุรกีคือจะไม่เลือกยืนข้างประเทศใดประเทศหนึ่งในความขัดแย้งครั้งนี้ ด้วยความคิดริเริ่มของท่านเออร์โดกันและสารที่ท่านจะสื่อนั้น เราคาดว่าความขัดแย้งจะคลี่คลายลงได้" เจ้าหน้าที่ของตุรกีระบุ
อนึ่ง ตุรกีเป็นประเทศที่อยู่ในภูมิภาคทะเลดำร่วมกับยูเครนและรัสเซีย และปธน.เออร์โดกันได้กล่าวว่า ความขัดแย้งไม่อาจเป็นที่ยอมรับได้ในภูมิภาคนี้ พร้อมเตือนรัสเซียว่า การบุกยูเครนเป็นการกระทำที่ไม่รอบคอบ