จีนออกโรงเตือนสหรัฐ และประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ผู้นำไต้หวันว่า การพบปะใด ๆ ระหว่างนางไช่กับนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จะถือเป็นการยั่วยุที่ร้ายแรง ซึ่งความเคลื่อนดังกล่าวของจีนเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อการเดินทางไปสหรัฐของนางไช่
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นางไช่มีกำหนดเดินทางออกจากกรุงไทเปในวันนี้ (29 มี.ค.) โดยจะแวะต่อเครื่องบินที่นิวยอร์กเพื่อเดินทางเยือนชาติพันธมิตรในทวีปอเมริกากลาง โดยในขากลับ นางไช่มีกำหนดเยือนลอสแอนเจลิส ซึ่งคาดว่าจะได้พบปะกับนายแมคคาร์ธีที่นั่น
"เราขอคัดค้านอย่างเด็ดขาดและจะใช้มาตรการตอบโต้อย่างแน่นอน" นางจู เฟิงเหลียน โฆษกประจำสำนักงานกิจการไต้หวันแห่งคณะรัฐมนตรีจีนกล่าวระหว่างการแถลงข่าวที่กรุงปักกิ่งในวันนี้ หลังจากผู้สื่อข่าวถามเกี่ยวกับโอกาสความเป็นไปได้ถึงการพบปะดังกล่าว แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
นางจูกล่าวอีกว่า หากนางไช่พบปะกับนายแมคคาร์ธี ก็ถือเป็นการกระทำที่ยั่วยุและละเมิดหลักการของนโยบายจีนเดียวอย่างรุนแรง อีกทั้งเป็นการทำลายอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของจีน นอกจากนี้ ยังบ่อนทำลายสันติภาพของช่องแคบไต้หวันด้วย
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนส.ค. 2565 นางแนนซี เพโลซี อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้เดินทางเยือนไต้หวัน ซึ่งทำให้จีนตอบโต้ด้วยการซ้อมรบอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยจำลองการปิดล้อมทางน้ำรอบเกาะไต้หวัน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สะท้อนให้เห็นว่าการรุกรานของจริงอาจจะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า
ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนย่ำแย่ลงเมื่อเดือนก.พ. หลังจากสหรัฐยิงบอลลูนสอดแนมของจีน ส่งผลให้นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ยกเลิกแผนการเดินทางเยือนจีนนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ขณะที่จีนได้ปฏิเสธความพยายามของสหรัฐในการกำหนดการเจรจาทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ซึ่งจะเป็นการสนทนาครั้งแรกนับตั้งแต่การพบปะกันเมื่อเดือนพ.ย. 2565 และสหรัฐได้ให้คำมั่นว่าจะรักษาความสัมพันธ์ให้มั่นคง
ทั้งนี้ คาดว่าปฏิริยาของจีนน่าจะเป็นผลมาจากการเลือกตั้งประธานาธิบไต้หวันที่กำลังจะมีขึ้น โดยพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าของนางไช่ ซึ่งสนับสนุนการเป็นเอกราช มีแนวโน้มจะได้รับผลประโยชน์หากจีนแสดงปฏิกิริยาคุกคามต่อรัฐบาลของเธอ