สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายซานติอาโก เปนา วัย 44 ปีได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของปารากวัยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (30 เม.ย.) ทำให้พรรคโคโลราโดซึ่งเป็นฝ่ายอนุรักษนิยมแข็งแกร่งขึ้นในประเทศ และตอกย้ำว่าจะไม่ยุติความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวัน
ขณะที่นับคะแนนไปแล้วทั้งสิ้นมากกว่า 99% นายเปนาชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียง 42.7% ทิ้งห่างคู่แข่งจากฝ่ายซ้ายกลางอย่างนายเอฟเรน อเลเกร มากกว่า 15 จุดเปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ นายเปนาได้ให้คำมั่นในช่วงหาเสียงว่าจะสานต่อความสัมพันธ์ของปารากวัยกับไต้หวัน ขณะที่นายอเลเกรเห็นต่างว่าควรเปลี่ยนไปสวามิภักดิ์ต่อจีนแทน เพื่อที่ปารากวัยจะได้ขายถั่วเหลืองและเนื้อวัวให้กับจีนซึ่งเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ของโลกได้ง่ายขึ้น
"ขอบคุณสำหรับชัยชนะของพรรคโคโลราโด ขอบคุณสำหรับชัยชนะของปารากวัย" นายเปนากล่าวปราศรัยหลังชนะการเลือกตั้ง
ด้านนายอเลเกรประกาศยอมรับผลเลือกตั้ง ส่วนนายมาริโอ อับโด ประธานาธิบดีปารากวัยคนปัจจุบัน แสดงความยินดีกับนายเปนาในฐานะ "ว่าที่ประธานาธิบดี" ตลอดจนผู้นำบราซิลและอาร์เจนตินาก็ส่งคำแสดงความยินดีมาด้วยเช่นกัน
นอกจากการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแล้ว พรรคโคโลราโดยังทำผลงานได้ดีในการเลือกตั้งผู้แทนเข้ารัฐสภาและการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดอีกด้วย โดยบางจังหวัดพรรคโคโลราโดมีคะแนนเสียงข้างมากเป็นประวัติการณ์เหนือคู่แข่งจากพรรคฝ่ายค้าน
หลังจากนี้ นายเปนาจะเผชิญกับความท้าทายในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของปารากวัยที่ขับเคลื่อนด้วยเกษตรกรรม ลดการขาดดุลการคลังครั้งใหญ่ และรับมือกับกลุ่มผู้ผลิตถั่วเหลืองและเนื้อวัวที่กดดันให้รัฐบาลละทิ้งไต้หวันแล้วหันมาสนับสนุนจีนที่มีตลาดขนาดใหญ่
"เรามีหลายอย่างที่ต้องทำหลังจากที่เศรษฐกิจซบเซาและขาดดุลการคลังมาแล้วหลายปี งานที่รอเราอยู่ไม่ใช่เพื่อคนคนเดียวหรือเพื่อพรรคใดพรรคหนึ่ง" นายเปนากล่าวปราศรัย พร้อมเรียกร้องให้มีประเทศมี "เอกภาพและฉันทามติ"
อนึ่ง ผลการเลือกตั้งครั้งนี้เน้นย้ำถึงอำนาจนำของพรรคโคโลราโดซึ่งควบคุมการเมืองปารากวัยเกือบตลอด 75 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่คริสต์ทศวรรษที่ 1950 มีเว้นช่วงไปแค่ 5 ปีเท่านั้น โดยการหาเสียงครั้งนี้ส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่เรื่องเศรษฐกิจ ข้อกล่าวหาเรื่องการคอร์รัปชัน และมุมมองของผู้สมัครที่มีต่อไต้หวัน โดยปารากวัยเป็น 1 ใน 13 ประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับไต้หวัน
ด้านกระทรวงต่างประเทศของไต้หวันระบุในถ้อยแถลงว่า เอกอัครราชทูตไต้หวันประจำกรุงอาซุนซิออนเป็นตัวแทนของประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ในการกล่าวแสดงความยินดีกับชัยชนะของนายเปนา
"ด้วยค่านิยมที่มีร่วมกัน เช่น ประชาธิปไตยและเสรีภาพ ตลอดจนมิตรภาพดั้งเดิมระหว่างทั้งสองประเทศ ประเทศของเราจะยังคงกระชับความร่วมมือและแลกเปลี่ยนกับรัฐบาลใหม่ของปารากวัยต่อไป" กระทรวงฯ ระบุ