สำนักข่าวนิกเกอิเอเชียรายงานว่า รัฐบาลเมียนมากำลังส่งเสริมให้พลเมืองหางานทำในต่างประเทศ เนื่องจากมองว่ารายได้ที่ชาวเมียนมาส่งกลับประเทศนั้นเป็นแหล่งเงินตราต่างประเทศที่สำคัญ ในขณะที่เมียนมาสูญเสียการลงทุนจากต่างชาติและการช่วยเหลือจากต่างประเทศ นับตั้งแต่กองทัพเข้ายึดอำนาจในเดือนก.พ. 2564
รายงานระบุว่า คนหนุ่มสาวจำนวนมากในเมียนมากำลังมองหางานในต่างประเทศ เนื่องจากไม่พอใจรัฐบาลทหาร ขณะเดียวกันรัฐบาลก็ต้องการเงินตราต่างประเทศ ส่งผลให้ทั้งสองฝ่ายมีผลประโยชน์ร่วมกันไปโดยปริยาย
ในช่วงกลางเดือนมิ.ย. รัฐบาลทหารประกาศเตือนว่าจะเพิกถอนใบอนุญาตของบริษัทที่เป็นตัวแทนจัดส่งแรงงานไปต่างประเทศ หากไม่ได้จัดส่งแรงงานไปตามสัญญาที่ทำกับบริษัทว่าจ้างในต่างประเทศ ซึ่งบ่งชี้ว่า รัฐบาลทหารมีวัตถุประสงค์ที่จะส่งเสริมการจัดส่งแรงงานไปต่างประเทศอย่างถูกกฎหมาย ขณะเดียวกันก็กำจัดบริษัทจัดส่งแรงงานที่ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ
นอกจากนี้ รัฐบาลทหารยังออกกฎระเบียบที่เอื้อให้แรงงานเมียนมาในต่างประเทศส่งเงินกลับประเทศ โดยเดิมทีธนาคารกลางเมียนมาได้กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราอย่างเป็นทางการแบบคงที่สำหรับเงินจัตเมียนมา แต่ในช่วงสิ้นเดือนส.ค. 2565 ได้ออกประกาศว่าเงินที่แรงงานในต่างประเทศส่งกลับประเทศจะได้รับการยกเว้นจากกฎระเบียบดังกล่าว โดยแรงงานเมียนมาในต่างประเทศสามารถส่งเงินกลับประเทศที่อัตราแลกเปลี่ยน ณ ช่วงปิดตลาด ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 2,850 จัตต่อดอลลาร์ เทียบกับอัตราแลกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการที่ 2,100 จัตต่อดอลลาร์
ทางการเมียนมาระบุว่า ยอดการส่งเงินกลับประเทศผ่านช่องทางอย่างเป็นทางการของแรงงานเมียนมาในต่างแดน ซึ่งรวมถึงธนาคาร รวมทั้งหมดอยู่ที่ 1.5 พันล้านดอลลาตร์ในช่วง 6 เดือนระหว่างเดือนพ.ย. 2565 ? เม.ย. 2566