สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เกือบ 40% ของระบบพลังงานของยูเครนได้รับความเสียหายจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนจากรัสเซียตลอดช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้หลาย ๆ เมืองของยูเครนตกภายใต้ความมืดมิดและหนาวเหน็บ
ยูเครนกล่าวหาว่า รัสเซียจงใจใช้กลยุทธ์ดังกล่าวทำร้ายพลเรือน ซึ่งนับว่าเป็นอาชญากรรมสงคราม ในขณะที่รัสเซียกล่าวว่าเป็นการโจมตีเพื่อลดประสิทธิภาพในการต่อสู้ของยูเครน
ในระหว่างเดินทางเยือนเมืองอิวาโน-ฟรานคิฟสค์ ทางตะวันตกของประเทศยูเครนเมื่อวันอาทิตย์ (30 ก.ค.) ปธน.เซเลนสกีกล่าวว่า นับตั้งแต่สภาพอากาศอบอุ่นขึ้น รัสเซียก็ลดระดับการโจมตีระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครน โดยรัสเซียมุ่งโจมตีไปยังเป้าหมายอื่นแทน แต่ปธน.เซเลนสกีคาดว่า รัสเซียจะกลับมาโจมตีระบบพลังงานอีกครั้ง
"เห็นได้ชัดว่าในฤดูใบไม้ร่วงนี้ และในฤดูหนาว ศัตรูจะพยายามโจมตีอุตสาหกรรมพลังงานของยูเครนอีกครั้ง ซึ่งเราควรเตรียมพร้อมรับมือเรื่องนี้ ไม่ว่าจะในกรณีใดก็ตาม" ปธน.เซเลนสกีกล่าวกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง และเจ้าหน้าที่ระดับภูมิภาค
"ทั้งในระดับรัฐบาล และความมั่นคง เราจะทำทุกอย่างเท่าที่เราทำได้" ปธน.เซเลนสกี กล่าว
ปธน.เซเลนสกีกล่าวเสริมว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาล เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง และเจ้าหน้าที่ด้านพลังงาน กำลังเร่งปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องระบบพลังงาน ทั้งจากความเสียหายทางภายภาพ การก่อวินาศกรรมหรือการโจมตีทางไซเบอร์ และทุก ๆ เมืองในยูเครนควรเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุฉุกเฉินด้านพลังงานด้วย
ด้านนายเฮอร์มาน กาลุชเชนโก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานยูเครน แสดงความมั่นใจว่ายูเครนจะมีพลังงานเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนในช่วงฤดูหนาว