ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เตรียมพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน นอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกหรือเอเปค (APEC Summit) ที่เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนียระหว่างวันที่ 11-17 พ.ย.
"การแข่งขันที่เข้มข้นหมายถึงการทูตที่เข้มข้น" แครีน ฌอง-ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาวระบุในการแถลงข่าว "นโยบายและแนวทางของเราต่อจีนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง"
นางฌอง-ปิแอร์ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับวาระการประชุมของปธน.ไบเดน แต่ระบุว่าปธน.ไบเดนจะมีการสนทนาหารือกันอย่างจริงจังกับปธน.สี
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า การประชุมแบบพบปะกันดังกล่าวจะมีขึ้น หลังจากที่มีการหารือก่อนหน้านี้ของเจ้าหน้าที่จีนกับนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง, นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ, นางจีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์, นายวิลเลียม เบิร์นส์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางของสหรัฐ (CIA), นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของสหรัฐ และนายจอห์น เคอร์รี ทูตพิเศษของสหรัฐด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ
การประชุมระหว่างปธน.ไบเดนและปธน.สีจะมีขึ้น ขณะที่ทำเนียบขาวเร่งให้ความช่วยเหลือด้านความมั่นคงและด้านมนุษยธรรมแก่อิสราเอล ท่ามกลางความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นกับกลุ่มฮามาส ขณะเดียวกัน สหรัฐจะยังคงเดินหน้าให้การสนับสนุนยูเครนที่ปกป้องดินแดนอธิปไตยของตนจากการรุกรานของรัสเซียซึ่งดำเนินมาแล้วกว่า 600 วัน
สถานการณ์เหล่านี้ยิ่งสร้างความตึงเครียดให้กับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจากสงครามการค้าที่เริ่มขึ้นในยุคของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ปธน.สีเป็นพันธมิตรทางการเงินที่ทรงพลังที่สุดของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซีย ดังนั้นการสนับสนุนจากจีนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความพยายามในการทำสงครามของรัสเซียต่อไป
ก่อนหน้านี้ ฝ่ายบริหารของปธน.ไบเดนเคยออกมาเตือนจีนว่า อย่าช่วยรัสเซียในการทำสงครามในยูเครน