เกิดเหตุการณ์จลาจลครั้งใหญ่ในกรุงพอร์ตมอร์สบี เมืองหลวงของปาปัวนิวกินี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 ราย สาเหตุเบื้องต้นเกิดจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหยุดงานประท้วงเพื่อแสดงความไม่พอใจที่ถูกปรับลดค่าจ้าง และสถานการณ์ได้ลุกลามเป็นวงกว้างจนเกิดเหตุการณ์ปล้นสะดมร้านค้าและโจมตีอาคารหลายแห่งในกรุงพอร์ตมอร์สบี
นายพาวส์ ปาร์คอป ผู้ว่าการเขตเมืองหลวงของปาปัวนิวกินีเปิดเผยผ่านทางสถานีวิทยุ FM100 ว่า "ทรัพย์สินในกรุงพอร์ตมอร์สบีถูกนักฉวยโอกาสปล้นไปหลังจากเหตุการณ์ลุกลามจนควบคุมไม่ได้ โดยเหตุรุนแรงครั้งนี้ อยู่ในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนในเมืองของเรา และเป็นเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของประเทศเรา"
เหตุการณ์ความไม่สงบดังกล่าวมีจุดเริ่มต้นมาจากการที่ตำรวจและข้าราชการของหน่วยงานอื่น ๆ ออกมาประท้วงหน้ารัฐสภาเมื่อวานนี้ หลังจากเงินเดือนของพวกเขาถูกลดลงมากถึง 50% จากนั้นเหตุการณ์ได้ลุกลามกลายเป็นจลาจล และมีประชาชนฉวยโอกาสในสถานการณ์นี้ ทำการปล้นสะดมซูเปอร์มาร์เก็ตและเผาร้านค้า
ภาพวิดีโอที่เผยแพร่บนแพลตฟอร์มของสื่อแสดงให้เห็นถึงภาพเหตุการณ์เพลิงไหม้หลายจุดในกรุงพอร์ตมอร์สบี และมีนักดับเพลิงถูกข่มขู่ขณะที่พวกเขาพยายามปฏิบัติหน้าที่
ตำรวจในปาปัวนิวกินีต้องเผชิญกับอาชญากรรมรุนแรงที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งนายเจมส์ มาราเป นายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินี ระบุว่า การเพิ่มความปลอดภัยจะช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศในอุตสาหกรรมทองคำและทองแดงที่กำลังเติบโตของปาปัวนิวกินี
ทั้งนี้ นายมาราเปกล่าวว่า เป้าหมายของรัฐบาลปาปัวนิวกินีคือการผลักดันให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัวมากกว่าสองเท่า