ตุรกีและอิรักบรรลุข้อตกลงด้านความมั่นคงครั้งสำคัญในการปราบปรามกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดที่กบดานอยู่ในบริเวณเทือกเขาทางตอนเหนือของอิรัก
ข้อตกลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ทั้งสองประเทศทำงานร่วมกันในการสร้างเส้นทางการค้าที่สำคัญ และกลับมาดำเนินท่อส่งน้ำมันที่สำคัญซึ่งพาดผ่านดินแดนทางตอนเหนือของอิรักสู่ชายฝั่งของตุรกีอีกครั้ง
แถลงการณ์ร่วมของทั้งสองประเทศเมื่อวานนี้ (14 มี.ค.) ระบุว่า ตุรกียินดีกับการตัดสินใจของอิรักที่กำหนดให้พรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน (PKK) เป็น "องค์กรที่ถูกแบน" และทั้งสองประเทศได้หารือกันเกี่ยวกับมาตรการต่าง ๆ ที่จะดำเนินการต่อกลุ่มดังกล่าวแล้ว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ตุรกีพยายามหาทางสกัดกั้นกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดมาอย่างยาวนาน เพื่อไม่ให้ใช้ดินแดนทางตอนเหนือของอิรักเป็นจุดเริ่มต้นในการทำสงครามเพื่อเอกราชที่กินเวลานานหลายสิบปีในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกีซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวเคิร์ด โดยกลุ่มดังกล่าวถูกกำหนดให้เป็นองค์กรก่อการร้ายโดยสหรัฐและสหภาพยุโรป (EU)
ตุรกีต้องการยกระดับการดำเนินปฎิบัติการทางทหารกับกลุ่ม PKK ในอิรัก ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ของตุรกี ซึ่งมีกำหนดการเดินทางเยือนกรุงแบกแดดในเดือนหน้า ก็กำลังหาเสียงสนับสนุนจากเหล่าผู้สิทธิ์เลือกตั้งในการเลือกตั้งท้องถิ่นในวันที่ 31 มี.ค.
นอกจากนี้ การเดินทางเยือนอิรักของปธน.เออร์โดกันและข้อตกลงด้านความมั่นคงดังกล่าว อาจสามารถช่วยแก้ไขข้อพิพาทที่ทำให้การขนส่งน้ำมันจากเคอร์ดิสถานในอิรักไปยังท่าเรือเซย์ฮานของตุรกีต้องหยุดชะงักไปเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้น้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงเกือบ 5 แสนบาร์เรลต่อวัน