สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า มาตรการมูลค่า 1.05 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐระยะเวลา 5 ปีดังกล่าว ช่วยมอบอำนาจให้กับสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (FAA) อีกครั้ง โดยร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวห้ามไม่ให้สายการบินต่าง ๆ เก็บค่าธรรมเนียมจากครอบครัวที่นั่งด้วยกัน และกำหนดให้เครื่องบินต้องติดตั้งอุปกรณ์บันทึกในห้องนักบิน 25 ชั่วโมง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ 2 ชั่วโมง และสั่งการให้ FAA นำเทคโนโลยีพื้นผิวสนามบินขั้นสูงมาใช้เพื่อช่วยป้องกันการชนกัน
ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวยังได้เพิ่มเที่ยวบินประจำวันที่สนามบินแห่งชาติวอชิงตันที่มีผู้คนพลุกพล่านขึ้นอีก 5 เที่ยว และกำหนดให้สายการบินต่าง ๆ ต้องรับคูปองและเครดิตเป็นเวลาอย่างน้อย 5 ปี
ความพยายามในการส่งเสริมความปลอดภัยให้กับสายการบินสหรัฐกลายเป็นเรื่องเร่งด่วนเรื่องใหม่ หลังเกิดอุบัติเหตุเสี่ยงอันตรายหลายครั้งและเหตุการณ์แผงประตูของเครื่องบินโบอิ้ง 737 MAX 9 ของสายการบินอลาสกาแอร์ไลน์หลุดกลางอากาศเมื่อวันที่ 5 ม.ค.
อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายดังกล่าวซึ่งคาดการณ์กันว่าจะได้รับการรับรองในขั้นสุดท้ายในสัปดาห์หน้าจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ไม่ได้เพิ่มอายุการเกษียณของนักบินเป็น 67 ปี ตามที่ฝ่ายนิติบัญญัติพยายามผลักดันเมื่อปีที่แล้วแต่อย่างใด
ในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ฝ่ายนิติบัญญัติเห็นพ้องกันที่จะแก้ไขข้อกฎหมายเพื่อรับประกันความรวดเร็วในการคืนเงินแก่ผู้โดยสารที่ถูกยกเลิกเที่ยวบิน ทั้งผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วแบบคืนเงินไม่ได้ และผู้ที่ไม่ต้องการเดินทางด้วยเที่ยวบินอื่น
นอกจากนี้ ร่างกฎหมายฉบับนี้ยังเพิ่มบทลงโทษทางแพ่งสูงสุดแก่ผู้บริโภคของสายการบินที่ละเมิดกฎจาก 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ สู่ 75,000 ดอลลาร์สหรัฐ และตั้งเป้าว่าจะจัดการกับปัญหาการขาดแคลนผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศ 3,000 อัตรา โดยสั่งการให้ FAA ยกระดับมาตรฐานการจัดหาพนักงานและว่าจ้างผู้ตรวจสอบ วิศวกร และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคเพิ่มเติม