พระคาร์ดินัล ทาร์ซิซิโอ อิซาโอะ คิคูชิ จากประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า พระคาร์ดินัลทั้ง 23 องค์จากทวีปเอเชียจะผนึกกำลังกันในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ในวันพรุ่งนี้ (7 พ.ค.)
"พวกเราชาวเอเชียค่อนข้างมีคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ในการสนับสนุนพระคาร์ดินัลเพียงหนึ่งหรือสององค์ และเราจะเห็นรายชื่อผู้มีคะแนนนำในไม่ช้า" พระคาร์ดินัลคิคูชิกล่าว
กลยุทธ์ของพระคาร์ดินัลจากเอเชียถือว่าแตกต่างจากพระคาร์ดินัล 53 องค์จากทวีปยุโรป ซึ่งมักนิยมลงคะแนนเลือกพระสันตะปาปาเป็นรายประเทศหรือรายบุคคลตามความชอบส่วนตัว
ด้านพระคาร์ดินัล เกรโกริโอ โรซา ชาเวซ แห่งเอลซัลวาดอร์ คาดการณ์ว่า การประชุมลับที่โบสถ์น้อยซิสทีนเพื่อสรรหาสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่จะใช้เวลาเพียง 2-3 วัน
"การประชุมลับครั้งนี้จะใช้เวลาไม่มาก ข้าพเจ้าคิดว่าบรรดาพระคาร์ดินัลจะมีฉันทามติร่วมกัน โดยทุกองค์ต่างมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนว่าเราต้องการโป๊ปแบบไหนสำหรับคริสตจักรและสำหรับโลก ข้าพเจ้าจึงคาดว่าการประชุมจะใช้เวลาสั้นมาก อาจจะกินเวลาเพียง 2 หรือ 3 วัน" พระคาร์ดินัลชาเวซกล่าว
ทั้งนี้ พระคาร์ดินัล เกรโกริโอ โรซา ชาเวซ ไม่มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกพระสันตะปาปาในครั้งนี้ เนื่องจากมีอายุ 82 ปี เกินกว่าเกณฑ์ที่ระบุว่า พระคาร์ดินัลที่มีสิทธิ์ลงคะแนนจะต้องมีอายุต่ำกว่า 80 ปี
พระคาร์ดินัลจากทั่วโลกจำนวน 170 องค์ได้เดินทางถึงนครรัฐวาติกันแล้วเพื่อเข้าร่วมการประชุมลับที่โบสถ์น้อยซิสทีนในการสรรหาสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ในวันพรุ่งนี้
สมเด็จพระสันตะปาปาที่ได้รับการคัดเลือกจะถือเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ที่ 267 ซึ่งจะมาแทนสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสที่ได้สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ขณะที่มีพระชนมายุ 88 พรรษา
ทั้งนี้ พระคาร์ดินัลที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่จะต้องมีอายุต่ำกว่า 80 ปี โดยพระคาร์ดินัลที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกพระสันตะปาปาในครั้งนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 133 องค์ ซึ่งถือเป็นพระคาร์ดินัลจำนวนสูงสุดเท่าที่เคยมีมาในการเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่ โดย 108 องค์ในจำนวนดังกล่าวได้รับการแต่งตั้งจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส
นอกจากนี้ การประชุมเลือกตั้งพระสันตะปาปาในครั้งนี้ถือว่ามีความหลากหลายทางภูมิศาสตร์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ 2,000 ปีของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก เนื่องจากพระคาร์ดินัลทั้ง 133 องค์ดังกล่าวมาจากประเทศที่แตกต่างกันถึง 70 ประเทศ
พระคาร์ดินัลที่เข้าร่วมการประชุมลับดังกล่าวจะถูกตัดขาดจากโลกภายนอก โดยจะไม่มีการใช้โทรศัพท์มือถือ อินเทอร์เน็ต หรือสื่อใด ๆ เพื่อให้การตัดสินใจเป็นอิสระ และปราศจากอิทธิพลจากภายนอก
การลงคะแนนสรรหาสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่จะแบ่งเป็นช่วงเช้า 2 รอบ และช่วงบ่าย 2 รอบ ซึ่งพระคาร์ดินัลจะลงคะแนนด้วยการเขียนชื่อผู้ถูกเลือกลงในบัตร แล้วหย่อนลงในภาชนะทองคำ โดยผู้ที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่จะต้องได้รับเสียงอย่างน้อย 2 ใน 3 ของพระคาร์ดินัลที่ลงคะแนนทั้งหมด
หากในการลงคะแนนในแต่ละวัน ที่ประชุมพระคาร์ดินัลยังไม่สามารถสรรหาสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ ก็จะมีการเผาบัตรลงคะแนน พร้อมกับการใส่สารเคมีที่ทำให้ควันเป็นสีดำออกจากปล่องบนหลังคาโบสถ์น้อยซิสทีน เพื่อเป็นการแสดงเชิงสัญลักษณ์ต่อคริสตศาสนิกชนทั่วโลกว่า ที่ประชุมยังไม่สามารถสรรหาสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ แต่หากที่ประชุมสามารถสรรหาสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ได้แล้ว ก็จะมีการเผาบัตรลงคะแนน พร้อมกับใส่สารเคมีที่ทำให้ควันมีสีขาว แสดงว่าที่ประชุมสามารถสรรหาสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ ซึ่งที่ผ่านมามักจะตามมาด้วยการโห่ร้องแสดงความยินดีจากคริสตศาสนิกชนที่เฝ้าดูจากจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์
ต่อจากนั้น พระคาร์ดินัลที่มีอาวุโสสูงสุดจะปรากฎตัวที่ระเบียงมหาวิหารนักบุญเปโตร และกล่าวว่า "Habemus Papam" ซึ่งหมายความว่า "เรามีพระสันตะปาปาแล้ว" หลังจากนั้น สมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่จะออกมาทักทายและประทานพรเป็นครั้งแรกต่อคริสตศาสนิกชนทั่วโลก