เจีย เต๋อ จวิน ผู้ว่าการธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) กล่าวว่า ความต้องการพลังงานทั่วเอเชียเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และพลังงานหมุนเวียนครองสัดส่วนสำคัญในสัดส่วนพลังงานรวมของบางประเทศในภูมิภาค โดยได้รับแรงหนุนจากต้นทุนที่ลดลง
ผู้ว่าแบงก์ชาติสิงคโปร์กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวที่งานประชุม Financing Asia's Transition (FAST) Conference 2025 ในวันนี้ (8 พ.ค.) โดยชี้ให้เห็นถึงความก้าวหน้าล่าสุดของจีน ที่กำลังการผลิตติดตั้งพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์แซงหน้าพลังงานความร้อนจากเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นครั้งแรกในเดือนมี.ค.ปีนี้ ขณะที่ประเทศต่าง ๆ อย่าง ฟิลิปปินส์ ไทย และกัมพูชา ต่างก็มีต้นทุนการผลิตพลังงานหมุนเวียนที่ลดลงต่ำกว่าการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินเช่นกัน
เขากล่าวว่า การสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านพลังงานจะเป็นกุญแจสำคัญสู่การเปลี่ยนผ่านศรษฐกิจของเอเชีย พร้อมทั้งระบุว่า ความต้องการพลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น 4% ต่อปี จนถึงปี 2578 โดยได้รับแรงหนุนจากภาคส่วนเช่น การขนส่ง อุตสาหกรรม และการก่อสร้าง
อย่างไรก็ตาม เจียเตือนว่า การจัดการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั่วโลกกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนมากขึ้นเรื่อย ๆ และมากยิ่งกว่าในช่วงห้าปีที่ผ่านมา เนื่องจากความมุ่งมั่นที่ลดน้อยลงเกี่ยวกับการกำหนดช่วงเวลาเพื่อบรรลุเป้าหมาย
นอกจากนี้ เขายังตั้งข้อสังเกตอีกว่า ความร่วมมือภาคเอกชนทั่วโลกกำลังถอยหลัง สถาบันการเงินหลายแห่งได้ถอนตัวออกจากกลุ่มพันธมิตรที่มีเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ และในบรรดากลุ่มพันธมิตรเหล่านี้มีบางส่วนที่ปรับเป้าหมายของตัวเองแล้ว