เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพอินเดียเปิดเผยว่า ทางการอินเดียได้ส่งข้อความผ่าน "สายด่วน" ถึงปากีสถานเมื่อวันอาทิตย์ (11 พ.ค.) เกี่ยวกับการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมแจ้งเจตนาว่าจะดำเนินการหากเหตุการณ์เกิดขึ้นอีก ขณะที่โฆษกกองทัพปากีสถานปฏิเสธว่าไม่มีการฝ่าฝืนข้อตกลงใดๆ
พลโท ราจีฟ ไก ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายปฏิบัติการทางทหารของอินเดีย (DGMO) แถลงต่อสื่อมวลชนว่า ข้อตกลงหยุดยิงที่มีอายุเพียง 24 ชั่วโมงยังคงอยู่ในภาวะเปราะบาง เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวหาว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ละเมิด โดยชี้ว่า บางครั้งข้อตกลงเหล่านี้ต้องใช้เวลาจึงจะเริ่มเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมในพื้นที่จริง
นอกจากนี้ พลโทไก ยังเปิดเผยว่า ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของอินเดียได้มอบอำนาจให้ผู้บัญชาการภาคสนามตัดสินใจรับมือกับการละเมิดจากฝั่งตรงข้ามในรูปแบบที่เห็นว่าเหมาะสม โดยกองกำลังติดอาวุธของอินเดียยังคงอยู่ในภาวะเตรียมพร้อมขั้นสูงสุด
ด้านปากีสถาน โฆษกกองทัพแถลงร่วมกับผู้แทนจากกองทัพอากาศและกองทัพเรือ ยืนยันว่า ไม่มีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงใด ๆ จากฝั่งปากีสถานหรือกองกำลังติดอาวุธ
รายงานระบุว่า ข้อตกลงหยุดยิงที่ประกาศเมื่อวันเสาร์ (10 พ.ค.) เกิดขึ้นหลังจากทั้งสองประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ต่อสู้กันอย่างดุเดือดตลอด 4 วัน ซึ่งถือเป็นการสู้รบที่รุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 3 ทศวรรษ โดยทั้งสองฝ่ายยิงขีปนาวุธและส่งโดรนโจมตีฐานทัพของกันและกัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 70 คน
อย่างไรก็ตาม ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังข้อตกลงมีผลบังคับใช้ มีรายงานการยิงปืนใหญ่ในแคชเมียร์ฝั่งอินเดีย ซึ่งเป็นศูนย์กลางการสู้รบส่วนใหญ่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีเสียงระเบิดจากระบบป้องกันภัยทางอากาศดังขึ้นในเมืองต่างๆ ใกล้ชายแดนภายใต้สภาวะไฟดับ คล้ายกับที่ได้ยินในช่วงสองคืนก่อนหน้านี้