ยูโรจัสต์ (Eurojust) หน่วยงานความร่วมมือด้านกระบวนการยุติธรรมของสหภาพยุโรป (EU) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่จากยุโรป สหรัฐฯ และแคนาดา ได้ร่วมมือกันดำเนินปฏิบัติการครั้งใหญ่เพื่อทลายเครือข่ายมัลแวร์ระดับโลก โดยยึดเซิร์ฟเวอร์กว่า 300 แห่งทั่วโลก พร้อมออกหมายจับผู้ต้องสงสัย 20 รายในระดับนานาชาติ ซึ่งการดำเนินการนี้เป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการ "Operation Endgame"
ปฏิบัติการนี้เป็นความต่อเนื่องจากการปราบปรามบอตเน็ตครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในเดือนพ.ค. 2567 โดยในช่วงเวลานั้นเจ้าหน้าที่ได้จับกุมและยึดทรัพย์สินจำนวนมาก และปัจจุบันปฏิบัติการ Operation Endgame ได้ยึดทรัพย์รวมแล้วกว่า 21.2 ล้านยูโรตั้งแต่เริ่มดำเนินการในปี 2567
กลุ่มผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับมัลแวร์นี้มีมากกว่า 30 ราย โดย 20 รายถูกตั้งข้อหาทางอาญา นอกจากนี้ยังมีการปิดกั้นโดเมนกว่า 650 แห่ง และยึดคริปโทเคอร์เรนซีมูลค่า 3.5 ล้านยูโรในการจัดการมัลแวร์ที่เรียกว่า "มัลแวร์เข้าถึงเบื้องต้น" (initial access malware) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่แฮกเกอร์ใช้เพื่อเจาะเข้าสู่ระบบเหยื่อโดยไม่ถูกตรวจจับ ก่อนจะติดตั้งมัลแวร์ชนิดอื่น ๆ เช่น แรนซัมแวร์
ในสัปดาห์นี้ เจ้าหน้าที่จากเยอรมนี ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก สหราชอาณาจักร สหรัฐฯ และแคนาดา ได้ร่วมกันบุกจับและจัดการกับมัลแวร์และกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่อันตรายที่สุดในโลก
ทั้งนี้ ปฏิบัติการ Operation Endgame จะยังคงดำเนินต่อไป โดยจะมีการรายงานความคืบหน้าผ่านทางเว็บไซต์ของเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
ในขณะนี้ มีผู้ต้องสงสัยสำคัญหลายรายยังคงหลบหนี และถูกติดตามตัวด้วยการประกาศหมายจับในที่สาธารณะ โดยเจ้าหน้าที่เยอรมนีเตรียมที่จะเพิ่มชื่อผู้ต้องสงสัย 18 ราย เข้าในบัญชี "EU Most Wanted" หรือรายชื่อผู้ต้องหาที่ทางสหภาพยุโรปต้องการตัวมากที่สุดภายในวันศุกร์นี้ (23 พ.ค.)