รายงานประจำปีของคณะทำงานรัฐบาลญี่ปุ่นที่เปิดเผยในวันนี้ (10 มิ.ย.) แสดงให้เห็นว่า จำนวนการเกิดเหตุการณ์ข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหลในองค์กรญี่ปุ่นพุ่งขึ้นกว่าเท่าตัว แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 21,000 รายการในปีงบประมาณ 2567 ซึ่งเป็นสัญญาณชัดเจนว่ามาตรการป้องกันข้อมูลทั้งในภาครัฐและเอกชนยังคงมีช่องโหว่
สาเหตุหลักที่ทำให้ตัวเลขพุ่งสูงขึ้นถึง 58% มาจากการรายงานข้อมูลรั่วไหลของสำนักงานทนายความด้านแรงงานและประกันสังคม ซึ่งหลายแห่งใช้ซอฟต์แวร์จากผู้ให้บริการรายเดียวกัน นอกจากนี้ ยังสะท้อนให้เห็นว่าบริษัทต่าง ๆ เริ่มตระหนักและตื่นตัวมากขึ้นถึงหน้าที่ในการรายงานเมื่อเกิดเหตุข้อมูลรั่วไหล
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า จากรายงานทั้งหมด 21,007 กรณี พบว่า 19,056 กรณีมาจากภาคเอกชน ซึ่งเพิ่มขึ้น 57% จากปีงบประมาณ 2566 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 2,745 กรณีเกี่ยวข้องกับการเข้าถึงบันทึกโดยไม่ได้รับอนุญาตบนเซิร์ฟเวอร์ของเอ็มเคซิสเต็ม คอร์ป (MKSystem Corp.) ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ด้านแรงงานและประกันสังคม
สำหรับในภาคเอกชน คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของญี่ปุ่นได้แนะนำให้ธุรกิจหนึ่งดำเนินการแก้ไขหลังจากพบการละเมิดกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างร้ายแรง แม้ตัวเลขนี้จะลดลงจากสามกรณีในปีงบประมาณก่อนหน้า แต่ในทางกลับกัน คณะกรรมการฯ ได้ให้คำแนะนำหรือคำปรึกษาแก่บริษัทเอกชนถึง 395 กรณี เพิ่มขึ้น 19%
ทั้งนี้ การรั่วไหลของข้อมูลภาครัฐเพิ่มขึ้น 68% สู่ระดับ 1,951 กรณี โดยหลายกรณีเกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ เช่น การออกเอกสารหรือจัดส่งที่ผิดพลาด