ทางการเวียดนามระดมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายฝ่าย ทั้งตำรวจ ทหารเรือ หน่วยยามฝั่ง และนักประดาน้ำ เพื่อเร่งค้นหาผู้สูญหายอีก 4 ราย หลังเกิดเหตุเรือนำเที่ยวล่มในอ่าวฮาลองเบย์จากพายุฝนฟ้าคะนองเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (19 ก.ค.) ซึ่งขณะนี้ยืนยันผู้เสียชีวิตแล้ว 35 ราย
แม้ทะเลจะสงบ แต่ปฏิบัติการค้นหายังเป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากทัศนวิสัยที่จำกัด ขณะที่พายุไต้ฝุ่นวิภาเตรียมพัดขึ้นฝั่งทางตอนเหนือของเวียดนามในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
รัฐบาลเวียดนามแถลงว่า ขณะนี้สามารถกู้ซากเรือขึ้นมาได้แล้ว พร้อมปรับยอดผู้เสียชีวิตลงจาก 38 ราย เหลือ 35 ราย และปรับจำนวนผู้โดยสารบนเรือจาก 53 ราย เป็น 49 ราย แต่ยังมีความกังวลว่าอาจพบผู้เสียชีวิตเพิ่ม
สำนักข่าวท้องถิ่นรายงานว่า ผู้โดยสารทั้งหมดเป็นชาวเวียดนาม รวมถึงมีเด็กหลายคน โดยอุบัติเหตุครั้งนี้นับเป็นเหตุร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในอ่าวฮาลองเบย์ แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม
รายงานระบุว่า พายุที่เกิดขึ้นมีลักษณะฉับพลัน ส่งผลให้ท้องฟ้ามืดครึ้มภายในเวลาไม่กี่นาที และมีลมกระโชกแรงจนทำให้ต้นไม้ในกรุงฮานอยหักโค่นจำนวนมาก ขณะที่ท่าอากาศยานนานาชาติโหน่ยบ่ายต้องเปลี่ยนเส้นทางบิน 9 เที่ยวบิน และระงับการออกเดินทางชั่วคราวอีก 3 เที่ยวบิน
ทั้งนี้ รัฐบาลกล่าวว่า สาเหตุของอุบัติเหตุเกิดจากพายุที่ก่อตัวอย่างฉับพลัน โดยในช่วงเกิดเหตุเวลาประมาณ 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันเสาร์ มีฝนตกหนัก ลมแรง และฟ้าผ่าหลายครั้งในพื้นที่เกิดเหตุ