สายการบินเจแปนแอร์ไลน์ (JAL) เปิดเผยในวันนี้ (3 ก.ย.) ว่า เที่ยวบิน 3 เที่ยวของสายการบินเจแปนแอร์ไลน์จากฮาวายมายังญี่ปุ่นต้องล่าช้า หลังพบว่านักบินได้ดื่มแอลกอฮอล์ โดยมี 2 เที่ยวที่ต้องล่าช้าไปนานถึง 18 ชั่วโมง
สายการบินฯ ระบุว่า กัปตันผู้นี้มีกำหนดการต้องบินจากโฮโนลูลูไปยังสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ แต่กลับขอลาป่วยในวันเดินทาง โดยยอมรับว่าได้ดื่มแอลกอฮอล์ในวันก่อนหน้า
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า JAL สามารถหานักบินสำรองได้ อย่างไรก็ตาม เที่ยวบินดังกล่าว รวมถึงเที่ยวบินอื่น ๆ อีก 2 เที่ยวที่มุ่งหน้าไปยังสนามบินฮาเนดะในกรุงโตเกียวก็ล่าช้าไปด้วย ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารโดยรวมราว 630 ราย
กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปยังสำนักงานใหญ่ของ JAL ในกรุงโตเกียวเพื่อดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เหตุการณ์ล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากที่ JAL ได้รับคำสั่งปรับปรุงธุรกิจในเดือนธ.ค. เนื่องจากพนักงานของสายการบินมีปัญหาเรื่องแอลกอฮอล์ โดยเมื่อเดือนเม.ย. ปีที่แล้ว กัปตันของ JAL คนหนึ่งได้รับคำเตือนจากตำรวจในท้องถิ่นเกี่ยวกับพฤติกรรมก่อความวุ่นวายขณะเมาสุราที่โรงแรมในสหรัฐฯ
ก่อนที่ต่อมาในเดือนธ.ค. นักบินสองคนซึ่งมีกำหนดบินจากเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ไปยังญี่ปุ่น ไม่ผ่านการตรวจแอลกอฮอล์ก่อนบิน ทำให้เที่ยวบินล่าช้าออกไป
เหตุการณ์อื้อฉาวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้ JAL ได้ส่งมาตรการป้องกันการเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยแก่กระทรวงคมนาคมในเดือนม.ค. ซึ่งรวมถึงการจัดทำรายชื่อพนักงานที่ JAL เชื่อว่า มีประวัติการดื่มแอลกอฮอล์เกินขนาดเพื่อติดตามพฤติกรรมของพวกเขา
ทั้งนี้ JAL ได้ออกมาขอโทษที่เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย แม้บริษัทกำลังดำเนินการเพื่อขจัดปัญหาดังกล่าวอยู่ก็ตาม โดย JAL ยืนยันว่าจะดำเนินการตามมาตรการอย่างเคร่งครัด