ปริตวี ซุบบา กูรุง โฆษกรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ เปิดเผยในวันนี้ (9 ก.ย.) ว่า เนปาลยกเลิกการแบนโซเชียลมีเดียแล้ว หลังเกิดการประท้วงที่มีผู้เสียชีวิต 19 ราย
เหตุการณ์ประท้วงเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (8 ก.ย.) โดยกลุ่มเยาวชน Gen Z ออกมาชุมนุมต่อต้านการทุจริตที่แพร่หลายและการแบนโซเชียลมีเดีย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 19 คน และบาดเจ็บกว่า 100 คน
กูรุงระบุว่า รัฐบาลได้ยกเลิกการปิดแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียแล้ว และแพลตฟอร์มต่าง ๆ สามารถใช้งานได้ตามปกติ
ผู้จัดการประท้วงเรียกเหตุการณ์นี้ว่า การชุมนุมของ Gen Z และระบุว่าการประท้วงสะท้อนความไม่พอใจอย่างกว้างขวางของเยาวชนต่อรัฐบาล ซึ่งถูกมองว่าล้มเหลวในการจัดการปัญหาการทุจริตและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ
นายกรัฐมนตรี เค.พี. ชาร์มา โอลี แสดงความเสียใจต่อเหตุความรุนแรงซึ่งมีสาเหตุมาจากการแทรกซึมของกลุ่มผลประโยชน์ต่าง ๆ พร้อมระบุว่ารัฐบาลจะมอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต และให้การรักษาฟรีแก่ผู้บาดเจ็บ
โอลีระบุเพิ่มเติมว่า จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อตรวจสอบสาเหตุ ประเมินความเสียหาย และเสนอแนวทางป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกภายใน 15 วัน
สัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลได้บล็อกการเข้าถึงโซเชียลมีเดียหลายแพลตฟอร์ม รวมถึงเฟซบุ๊ก ซึ่งการตัดสินใจนี้ยิ่งเพิ่มความไม่พอใจของคนรุ่นใหม่
เจ้าหน้าที่ระบุว่า การปิดแพลตฟอร์มเกิดขึ้นกับแพลตฟอร์มที่ไม่จดทะเบียนกับรัฐบาล ท่ามกลางการปราบปรามบัญชีปลอม ข้อมูลบิดเบือน และคำพูดแสดงความเกลียดชัง
ทั้งนี้ Gen Z หมายถึงกลุ่มคนที่เกิดในยุคดิจิทัลประมาณปี พ.ศ. 25382552 โดยเติบโตมากับเทคโนโลยี อินเทอร์เน็ต และโซเชียลมีเดีย ทำให้มีความคุ้นเคยและเชี่ยวชาญในการใช้งานเครื่องมือดิจิทัล เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้รวดเร็ว และมักเสพข้อมูลผ่านโลกออนไลน์เป็นหลัก