สถานทูตฯ เตือนคนไทยในเนปาลหลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมนุม หลังเหตุประท้วงลุกลาม

ข่าวต่างประเทศ Wednesday September 10, 2025 13:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกาฐมาณฑุ ประกาศเตือนคนไทยในเนปาลให้เพิ่มความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมนุม และติดตามข่าวสารจากสถานทูตฯ อย่างใกล้ชิด ท่ามกลางสถานการณ์ประท้วงในประเทศที่ทวีความรุนแรงจนกลายเป็นเหตุจลาจลนองเลือด มีผู้เสียชีวิตกว่า 20 ราย และบาดเจ็บอีกนับร้อย

สถานทูตไทยในเนปาลโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กในวันนี้ (10 ก.ย.) ระบุว่า "ขอแจ้งสถานการณ์ล่าสุดสืบเนื่องจากการชุมนุมประท้วงต่อต้านการทุจริตและมาตรการห้ามใช้สื่อสังคมออนไลน์ของรัฐบาลเนปาล โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Gen Z) ส่งผลให้ทางการเนปาลบังคับใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ดังนี้

1. กองทัพเนปาลได้เพิ่มมาตรการรักษาความสงบ โดยจัดกำลังตรวจเข้มตามพื้นที่สำคัญและส่งเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนในเมืองหลัก พร้อมทั้งประกาศ คำสั่งห้ามออกนอกเคหสถาน (Prohibitory Orders) จนถึงเวลา 17.00 น. ของวันที่ 10 กันยายน 2568 และประกาศ เคอร์ฟิว (Curfew) ต่อเนื่องจนถึงเวลา 6.00 น. ของวันที่ 11 กันยายน 2568

2. ทางการเนปาลได้ขอความร่วมมือประชาชนให้อยู่ในความสงบและในที่ปลอดภัย โดยยืนยันว่าสถานการณ์กำลังค่อย ๆ กลับเข้าสู่ภาวะปกติและอยู่ภายใต้การควบคุมของหน่วยงานด้านความมั่นคง

3. สถานะปัจจุบัน สนามบินนานาชาติตรีภูวัน (Tribhuvan International Airport) ปิดทำการชั่วคราวจนถึงเวลา 12.00 น. ของวันนี้ (10 กันยายน 2568) ขอให้คนไทยตรวจสอบข้อมูลเที่ยวบินกับสายการบินของท่านก่อนออกเดินทาง

4. สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินสถานการณ์และเตรียมมาตรการช่วยเหลือคนไทยในกรณีจำเป็น"

ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอให้คนไทยในเนปาลเพิ่มความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมนุม และติดตามข่าวสารจากสถานเอกอัครราชทูตฯ อย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ ทางสถานทูตยังได้แจ้งช่องทางติดต่อกรณีฉุกเฉินไว้ด้วย

สำหรับสถานการณ์ประท้วงในเนปาลจนถึงขณะนี้ยังคงรุนแรง แม้นายกรัฐมนตรี เค พี ศรรมะ โอลี ได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งวานนี้ โดยกลุ่มผู้ประท้วงยังคงฝ่าฝืนประกาศเคอร์ฟิวที่ไม่มีกำหนดและรวมตัวกันตามจุดต่าง ๆ ทั่วเมืองหลวง โดยเฉพาะบริเวณด้านหน้ารัฐสภา มีการจุดไฟเผายางรถยนต์ ขว้างปาก้อนหินเข้าใส่เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน และไล่ต้อนเจ้าหน้าที่ไปตามตรอกซอยต่าง ๆ ท่ามกลางกลุ่มควันสีดำพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า

นอกจากนี้ ความรุนแรงยังได้ขยายวงกว้างออกไปนอกเมืองหลวง มีรายงานว่าประชาชนจากเมืองต่าง ๆ บริเวณชายแดนอินเดีย-เนปาลหลายร้อยคนเดินเท้ามุ่งหน้าสู่กรุงกาฐมาณฑุเพื่อสมทบกับผู้ชุมนุม นอกจากนี้ ผู้เห็นเหตุการณ์ยังระบุว่าบ้านพักของนักการเมืองบางรายในเมืองหลวงถูกวางเพลิง ขณะที่สื่อท้องถิ่นรายงานว่าเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพต้องเข้าให้ความช่วยเหลืออพยพรัฐมนตรีบางคนไปยังพื้นที่ปลอดภัย

ชนวนเหตุของความไม่สงบครั้งนี้มาจากการที่รัฐบาลสั่งแบนโซเชียลมีเดียเมื่อสัปดาห์ก่อน ส่งผลให้เกิดการชุมนุมใหญ่ที่เรียกกันว่า "การประท้วงของ Gen Z" เมื่อวันจันทร์ (8 ก.ย.) สถานการณ์ได้ลุกลามบานปลายเมื่อผู้ประท้วงพยายามบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา ทำให้ตำรวจตัดสินใจใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางเพื่อสลายการชุมนุม จนมีผู้เสียชีวิตกว่า 20 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 100 ราย แม้ต่อมารัฐบาลจะยอมยกเลิกคำสั่งแบนดังกล่าว แต่ก็ไม่สามารถบรรเทาความไม่พอใจของประชาชน

เหตุการณ์ความไม่สงบครั้งนี้นับว่ารุนแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ โดยเนปาล ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างสองมหาอำนาจอย่างจีนกับอินเดีย เผชิญกับปัญหาความไร้เสถียรภาพทางการเมืองและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่การล้มล้างระบอบกษัตริย์ในปี 2551


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ