กระทรวงมหาดไทยของสหราชอาณาจักร เปิดเผยในวันพฤหัสบดี (9 ต.ค.) ว่า จำนวนอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชัง (Hate Crime) ในอังกฤษและเวลส์ เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ซึ่งรวมถึงความผิดที่มีแรงจูงใจจากเชื้อชาติและศาสนา
รายงานระบุว่า มีอาชญากรรมจากความเกลียดชังเกือบ 116,000 คดีในรอบปีที่สิ้นสุดในเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 2% จาก 113,100 คดีในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
เพื่อพิจารณาเป็นรายกรณีพบว่า อาชญากรรมจากความเกลียดทางศาสนาที่มุ่งเป้าไปที่ชาวมุสลิม เพิ่มขึ้น 19% โดยเพิ่มขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์โจมตีที่เซาท์พอร์ตและการจลาจลเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา
ชาบานา มะห์มูด รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยอังกฤษ กล่าวว่า ชุมชนชาวมุสลิมและชาวยิว "ยังคงประสบกับอาชญากรรมจากความเกลียดชังที่รุนแรงในระดับที่ยอมรับไม่ได้ ... สถิติเกี่ยวกับอาชญากรรมจากความเกลียดชังในปัจจุบันแสดงให้เห็นว่า มีคนจำนวนมากมายที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความหวาดกลัวจากสิ่งที่พวกเขาเป็น สิ่งที่พวกเขาเชื่อ หรือที่ที่พวกเขาจากมา"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีชาวยิว 2 รายที่เสียชีวิตจากการโจมตีที่เกิดขึ้นในโบสถ์ยิวในเมืองแมนเชสเตอร์ โดยผู้ต้องสงสัย ซึ่งเชื่อว่าเป็นพลเมืองอังกฤษเชื้อสายซีเรีย ได้ขับรถพุ่งชนผู้คนที่มาร่วมพิธีทางศาสนา จากนั้นจึงก่อเหตุใช้มีดแทงขณะสวมเสื้อกั๊กพลีชีพปลอม ก่อนถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญในที่เกิดเหตุ