ศาลจีนเปิดฉากพิจารณาคดีแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติที่นำโดยสวี ฝ่าฉี (Xu Faqi) หรือที่รู้จักในนามสวี เหล่าฝ่า (Xu Laofa) ภายใต้ความร่วมมือทางกฎหมายระหว่างจีนกับเมียนมา เพื่อปราบปรามขบวนการฉ้อโกงในพื้นที่ทางตอนเหนือของเมียนมาที่มุ่งเป้าหลอกลวงประชาชนจีน
ผลการสอบสวนระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2562 กลุ่มของสวีได้ใช้อิทธิพลในภูมิภาคโกก้างทางตอนเหนือของเมียนมา เพื่อร่วมมือกับขบวนการฉ้อโกงทางโทรคมนาคม โดยได้ก่อสร้างหรือเช่าสร้างศูนย์ปฏิบัติการถึง 14 แห่ง ทั้งยังสรรหาบุคลากรจำนวนมากมาดำเนินการหลอกลวงเหยื่อชาวจีนทางออนไลน์และทางโทรศัพท์
นอกจากนี้ กลุ่มของสวียังควบคุมกองกำลังติดอาวุธกว่า 400 นาย เพื่อคุ้มกันพื้นที่เหล่านี้ เปิดทางให้นายทุนที่อยู่เบื้องหลังสามารถใช้ความรุนแรงควบคุม ทำร้าย รุมทำร้าย หรือแม้แต่สังหารสมาชิกระดับล่างของขบวนการฉ้อโกงได้
ขณะเดียวกัน ขบวนดังกล่าวยังถูกกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมหลายข้อหา รวมถึงการฉ้อโกง ทำร้ายร่างกายโดยเจตนา กักขังโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และกรรโชกทรัพย์ ทั้งยังเกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกงมากกว่า 3,400 คดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 1.1 พันล้านหยวน (ราว 155 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตำรวจจีนได้เปิดฉากปฏิบัติการสอบสวนพิเศษเพื่อติดตามกลุ่มของสวีในภูมิภาคโกก้างเมื่อเดือนก.ย. 2566 และเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2567 ตำรวจเมียนมาสามารถจับกุมสวีได้ภายใต้กลไกความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายระหว่างจีน-เมียนมา ก่อนส่งตัวให้ทางการจีนดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีนเปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ จับกุมชาวจีนที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงในพื้นที่ภาคเหนือของเมียนมาแล้วกว่า 57,000 คน