สนามบินสำคัญหลายแห่งของสหรัฐฯ ประกาศสั่งหยุดหรือเลื่อนเวลาเที่ยวบินเมื่อวันพฤหัสบดี (23 ต.ค.) หลังขาดแคลนเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศ ซึ่งเป็นผลมาจากการปิดทำการของรัฐบาลกลางที่ยืดเยื้อมาแล้ว 23 วัน
สนามบินแห่งชาติโรนัลด์ เรแกน ใกล้กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประกาศใช้มาตรการชะลอเที่ยวบิน ขณะที่สนามบินนานาชาตินิวอาร์กลิเบอร์ตี ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สนามบินลากวาร์เดียในนิวยอร์ก และสนามบินจอร์จ บุช อินเตอร์คอนติเนนตัล ในฮิวสตัน ต่างประกาศหยุดบินชั่วคราวทั้งหมด เนื่องจากขาดแคลนบุคลากร
องค์การบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐฯ (FAA) รายงานว่า เที่ยวบินที่เดินทางไปสนามบินแห่งชาติโรนัลด์ เรแกน ล่าช้าเฉลี่ย 31 นาที ณ เวลา 21.30 น. ของวันพฤหัสบดี (23 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น
ขณะที่ไฟลท์อะแวร์ (FlightAware) ซึ่งเป็นเว็บไซต์ติดตามเที่ยวบิน รายงานว่า มีเที่ยวบินภายในและระหว่างประเทศที่ล่าช้าแล้วกว่า 5,000 เที่ยว และยกเลิกไปแล้วกว่า 80 เที่ยว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นับตั้งแต่ต้นเดือนนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศกว่า 13,000 คน และเจ้าหน้าที่สำนักงานความปลอดภัยการขนส่ง (TSA) ประมาณ 50,000 คน ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่แม้ไม่ได้รับค่าจ้าง
ขณะที่พรรคการเมืองทั้งสองฝ่ายยังคงโต้เถียงและกล่าวหากัน ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่วิกฤตชัตดาวน์รัฐบาลกลางจะยืดเยื้อไปจนถึงเดือนพ.ย. หรือแม้แต่ช่วงเทศกาลวันหยุดปลายปี
ด้านแคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวเปิดเผยว่า รัฐบาลกังวลว่าจะเกิดความล่าช้า การหยุดชะงัก และการยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมากที่สนามบินสำคัญทั่วประเทศในช่วงเทศกาลวันหยุดปีนี้