เกิดเหตุเครื่องบินขนส่งสินค้าของบริษัท ยูไนเต็ด พาร์เซล เซอร์วิส (UPS) รุ่น MD-11 เที่ยวบินที่ 2976 ประสบเหตุตกหลังทะยานขึ้นจากท่าอากาศยานนานาชาติลุยส์วิลล์ มูฮัมหมัด อาลี ในรัฐเคนทักกี ได้ไม่นาน เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ของวันอังคาร (4 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 05.00 น. ของวันนี้ตามเวลาไทย) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเบื้องต้นอย่างน้อย 3 ราย และบาดเจ็บ 11 ราย
แอนดี เบอเชียร์ ผู้ว่าการรัฐเคนทักกี แถลงยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บดังกล่าว พร้อมแสดงความกังวลว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายมีอาการสาหัส ขณะที่ยังไม่ทราบชะตากรรมของลูกเรือ 3 คนที่ปฏิบัติหน้าที่บนเครื่องบินลำดังกล่าวซึ่งมีปลายทางที่เมืองโฮโนลูลู รัฐฮาวาย
รายงานข่าวระบุว่า จุดที่เครื่องบินตกอยู่ในเขตอุตสาหกรรม สร้างความเสียหายให้กับธุรกิจอย่างน้อย 2 แห่ง และทำให้เกิดกลุ่มควันดำขนาดใหญ่พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากระยะไกลหลายไมล์ นอกจากนี้ แรงกระแทกยังส่งผลให้โรงงานของบริษัทฟอร์ด มอเตอร์ (Ford Motor) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียง ประสบปัญหาไฟฟ้าดับชั่วขณะ
เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ท่าอากาศยานนานาชาติลุยส์วิลล์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศระดับโลกของ UPS ที่เรียกว่า "Worldport" ต้องประกาศระงับทุกเที่ยวบินและปิดให้บริการชั่วคราว ขณะที่สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐฯ (FAA) ได้ประกาศเขตห้ามบินในรัศมี 5 ไมล์รอบที่เกิดเหตุ
ผู้ว่าการรัฐเคนทักกีได้ออกคำเตือนให้ประชาชนอยู่ห่างจากพื้นที่เกิดเหตุอย่างเด็ดขาด เนื่องจากยังคงเป็นพื้นที่อันตรายและอาจมีวัตถุไวไฟ พร้อมกันนี้ ได้มีการประกาศให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของสนามบินปฏิบัติตามมาตรการ "Shelter in place" หรือหลบภัยในที่พักอาศัยเพื่อความปลอดภัย
ด้าน FAA และคณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติ (NTSB) ได้เริ่มต้นกระบวนการสืบสวนเพื่อหาสาเหตุแล้ว โดย NTSB จะเป็นหน่วยงานหลักในการสอบสวน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าปฏิบัติการในที่เกิดเหตุอาจต้องใช้เวลาอีกหลายวัน