ศูนย์ข้อมูลกลางนักศึกษาแห่งชาติของสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นว่า จำนวนนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนในวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยทั่วประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยจำนวนรวมนักศึกษาขยับขึ้น 2% ขณะที่ระดับปริญญาตรีเพิ่มขึ้น 2.4%
รายงานระบุว่า แรงขับเคลื่อนหลักมาจากวิทยาลัยชุมชนและหลักสูตรประกาศนียบัตร ซึ่งมีนักศึกษาเพิ่มขึ้น 4% และ 6.6% ตามลำดับ โดยทุกภาคส่วนของการศึกษาระดับปริญญาตรีต่างมียอดลงทะเบียนเพิ่มขึ้นเช่นกัน
แมทธิว โฮลแซปเปิล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยของศูนย์ฯ ระบุว่า ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนแนวโน้มการศึกษาที่เปลี่ยนไป ขณะที่ทั้งสถาบันและนักศึกษากำลังปรับตัวรับโอกาสและความท้าทายใหม่ ๆ พร้อมชี้ว่า นักศึกษามีแนวโน้มเลือกเรียนในสาขาที่เน้นทักษะปฏิบัติ ค่าใช้จ่ายไม่สูง และตอบโจทย์ตลาดแรงงาน
อย่างไรก็ดี การลงทะเบียนเรียนระดับบัณฑิตศึกษาแทบไม่เปลี่ยนแปลงจากปีก่อน โดยเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ขณะที่หลักสูตรปริญญาโท ซึ่งคิดเป็นเกือบสองในสามของนักศึกษาบัณฑิตทั้งหมด ลดลง 0.6% โดยเฉพาะสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่มียอดนักศึกษาลดลงมาก โดยระดับปริญญาโทลดลงถึง 15% และระดับปริญญาตรีที่ลดลงเกือบ 6%
ข้อมูลเบื้องต้นยังไม่นับรวมจำนวนนักศึกษาต่างชาติ อย่างไรก็ตาม สำนักงานการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ รายงานว่า จำนวนวีซ่านักศึกษาลดลง 19% ในเดือนส.ค. แตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี ซึ่งอาจกระทบต่อรายได้และจำนวนนักศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ
โฮลแซปเปิลกล่าวเพิ่มเติมว่า นักศึกษาต่างชาติส่วนใหญ่นิยมเลือกเรียนในสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์และระดับบัณฑิตศึกษา โดยศูนย์ฯ จะเผยแพร่รายงานฉบับสมบูรณ์เกี่ยวกับการลงทะเบียนเรียนภาคฤดูใบไม้ร่วงปี 2568 ในเดือนม.ค. ซึ่งจะรวมข้อมูลนักศึกษาต่างชาติด้วย