รัฐบาลญี่ปุ่นได้อนุมัติร่างเพื่อแก้ไขกฎหมายต่อต้านการสะกดรอยตามและความรุนแรงในครอบครัว เพื่อจำกัดการใช้ Bluetooth tag ในการติดตามตำแหน่งของบุคคล เนื่องจากมีการนำอุปกรณ์ดังกล่าวไปใช้ในทางที่ผิดเพิ่มมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ การใช้อุปกรณ์ GPS เพื่อติดตามตำแหน่งโดยไม่ได้รับอนุญาต ได้ถูกสั่งห้ามในการแก้ไขกฎหมายต่อต้านการสะกดรอยตามเมื่อปี 2564 แต่การแก้กฎหมายครั้งนั้นยังไม่มีการจำกัดการใช้แท็กบลูทูธ ซึ่งโดยปกติจะใช้ติดกับสิ่งของมีค่าเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามเจอของที่สูญหาย
ขณะเดียวกัน กฎหมายต่อต้านความรุนแรงในครอบครัวจะถูกแก้ไขเช่นกัน เพื่อให้แน่ใจว่าการใช้อุปกรณ์ติดตามลักษณะดังกล่าวจะถูกห้ามภายใต้คำสั่งคุ้มครองที่ออกโดยศาล
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า หากผ่านการลงมติในสมัยประชุมวิสามัญของรัฐสภา ซึ่งดำเนินอยู่ในขณะนี้และจะสิ้นสุดลงในวันที่ 17 ธ.ค. กฎหมายฉบับแก้ไขจะมีผลบังคับใช้ใน 20 วันหลังจากมีการประกาศใช้
ข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่นเผยให้เห็นว่า จำนวนผู้สะกดรอยตามที่ใช้แท็กเหล่านี้ผ่านสมาร์ตโฟนเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยมีรายงานเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าว 196 ครั้งในปี 2566 และ 370 ครั้งในปี 2567 และตัวเลขในปี 2568 ได้แซงหน้าปีก่อนหน้าไปแล้ว
การเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมในกฎหมายต่อต้านการสะกดรอยตามยังรวมถึงการให้อำนาจตำรวจเข้าแทรกแซงได้ทันที โดยไม่ต้องรอการร้องขอจากบุคคลที่ถูกสะกดรอยตาม
ทั้งนี้ การแก้ไขกฎหมายฉบับดังกล่าวมีขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมหญิงสาววัย 20 ปีใกล้กรุงโตเกียว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจล้มเหลวในการใช้มาตรการที่มีอยู่เพื่อปกป้องหญิงสาวรายดังกล่าว แม้ทราบว่าเธอกำลังถูกสะกดรอยตาม
นอกจากนี้ การแก้ไขดังกล่าวยังรวมถึงบทบัญญัติที่อนุญาตให้ตำรวจร้องขอให้บุคคลที่สาม เช่น นักสืบเอกชน ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเหยื่อแก่ผู้สะกดรอยตามด้วย