สื่อท้องถิ่นของออสเตรเลียรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย จากเหตุการณ์กราดยิงที่หาดบอนได (Bondi Beach) ในนครซิดนีย์ วันนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ได้ 2 คน
รายงานระบุว่า ก่อนเกิดเหตุในช่วงเย็น ชุมชนชาวยิวได้มารวมตัวกันที่หาดบอนไดเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลฮานุกกะห์ (Hanukkah) ซึ่งเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองช่วงสิ้นปีของชาวยิว คล้ายเทศกาลคริสต์มาสของผู้นับถือศาสนาคริสต์
ตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์ม X ระบุว่า "ตำรวจกำลังปฏิบัติการอยู่ ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงพื้นที่ดังกล่าว"
ขณะที่โฆษกของนายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบานีส กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้รับรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ความมั่นคงที่เกิดขึ้นแล้ว และขอให้ผู้ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงปฏิบัติตามคำแนะนำของตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์
สถานีวิทยุโทรทัศน์เอบีซีรายงานว่า มีผู้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้วอย่างน้อย 16 ราย และยังมีผู้ที่อยู่ระหว่างการปฐมพยาบาลในที่เกิดเหตุอีกจำนวนหนึ่ง ด้านหนังสือพิมพ์เดอะซิดนีย์ มอร์นิง เฮอรัลด์ รายงานว่า มีผู้บาดเจ็บหลายคน ส่วนสถานีโทรทัศน์สกายได้แพร่ภาพผู้คนนอนจมกองเลือดบนพื้น
อเล็กซ์ ไรฟ์ชิน ประธานบริหารร่วมของสภาผู้นำชาวยิวแห่งออสเตรเลีย ให้สัมภาษณ์กับสกายนิวส์ว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในงานฉลองเทศกาลฮานุกกะห์ของชาวยิว ซึ่งเริ่มตอนพระอาทิตย์ตกดิน
"นี่คือช่วงเวลาที่ชุมชนชาวยิวมารวมตัวกันอย่างอบอุ่นเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุข ถ้าพวกเราเป็นเป้าหมายการโจมตีโดยเจตนาจริง ๆ มันเป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าใครจะนึกฝัน เป็นเรื่องที่สยดสยองมาก" เขากล่าววิดีโอที่เผยแพร่บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์แสดงภาพผู้คนบนหาดบอนไดวิ่งหนีกระเจิงไปทั่ว ท่ามกลางเสียงปืนดังหลายนัดและไซเรนของรถตำรวจ
เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นใกล้กับวันครบรอบ 11 ปี ของคดีกราดยิงที่ร้าน Lindt Cafe ในซิดนีย์ เมื่อมือปืนรายหนึ่งจับตัวประกัน 18 คน และเผชิญหน้ากับตำรวจยาวนาน 16 ชั่วโมง ก่อนที่เหตุการณ์จะจบลงโดยมีตัวประกันเสียชีวิต 2 คน รวมถึงคนร้าย