ทั้งนี้ บีพี ซึ่งถือหุ้น 19.75% ในบริษัทรอสเนฟท์ ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลรัสเซีย เปิดเผยว่า แม้ว่าวิกฤตการณ์ยูเครนไม่ได้ส่งผลกระทบมากนักต่อธุรกิจของบริษัท แต่ผลกระทบก็อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
"หากประเทศต่างๆใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อบริษัทรอสเนฟท์ หรือต่อรัสเซีย หรือต่อบุคลากรของรัสเซีย ก็อาจจะทำให้ความสัมพันธ์และการลงทุนระหว่างบีพีและรอสเนฟท์ได้รับผลกระทบตามไปด้วย อีกทั้งจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนของเราในรัสเซียและต่อสถานะทางการเงินและผลการดำเนินงานของเราด้วย" บีพีกล่าว
บีพีได้แสดงความกังวลในเรื่องดังกล่าว แม้ว่าทางบริษัทเปิดเผยตัวเลขกำไรไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 3.6 พันล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรสุทธิที่บีพีได้จากการลงทุนในรอสเนฟท์นั้น อยู่ที่ 1 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2
นอกจากนี้ การแสดงความเห็นในเรื่องดังกล่าวมีขึ้นหลังจากมีรายงานว่า สหรัฐ และสหภาพยุโรป (อียู) จะคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมในสัปดาห์นี้ เนื่องจากรัสเซียยังคงให้ความช่วยเหลือกลุ่มกบฏในทางตะวันออกของยูเครน