WHO เผยแอฟริกาตะวันตกบรรลุเป้าหมายรับมืออีโบลาได้ตามแผน 70-70-60

ข่าวต่างประเทศ Tuesday December 2, 2014 10:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายบรูซ เอลเวิร์ด รองผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า การระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลากำลังชะลอตัวลง เนื่องจากกลุ่มประเทศที่พบการระบาดในแอฟริกาตะวันตกได้ดำเนินการรักษา แยกการรักษาผู้ป่วย และฝังร่างผู้เสียชีวิตอย่างปลอดภัยได้เกือบ 70% ตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้แล้ว

เอลเวิร์ดให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่สำนักงานองค์การสหประชาติในกรุงเจนีวาว่า เนื่องจากการระบาดของโรค และศักยภาพในการรับมือเริ่มทิ้งช่วงห่างกันมากขึ้นทุกที WHO และหน่วยงานปฏิบัติภารกิจรับมืออีโบลาของ ยูเอ็น จึงได้ตั้งเป้าหมายที่เรียกว่า “โครงการ 70-70-60" ซึ่งมีเป้าหมายในการแยกตัวผู้ป่วย และรักษาผู้ป่วยให้ได้ 70% รวมถึงฝังร่างผู้เสียชีวิตอย่างปลอดภัยให้ได้ 70% ภายใน 60 วันโดยเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนต.ค. ถึงวันที่ 1 ธ.ค.

รองผู้อำนวยการ WHO ยังกล่าวว่า ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ไวรัสอีโบลาระบาดเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ และจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ๆก็พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนทั้งเตียงผู้ป่วยและทีมเจ้าหน้าที่ฝังร่างผู้เสียชีวิต

อย่างไรก็ดี การสนับสนุนอย่างเต็มที่จากประชาคมโลก ความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งของแต่ละประเทศ และความร่วมมือในสังคมทำให้ “เราอยู่ในสถานะที่ต่างจากเดิมมาก" เอลเวิร์ดกล่าว

เอลเวิร์ด ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบภารกิจรับมืออีโบลาของ WHO กล่าวต่อไปว่า ประเทศที่พบการติดเชื้อทั้ง 3 ประเทศสามารถฝังร่างผู้เสียชีวิตได้อย่างปลอดภัยมากกว่า 70% เนื่องมาจากมีการเพิ่มจำนวนทีมเจ้าหน้าที่ฝังศพมากกว่า 2 เท่าในช่วง 60 วันที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้นจากไม่ถึง 100 รายเป็นเกือบ 200 ราย

สำหรับสัดส่วนเปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาตามสถานพยาบาล หรือศูนย์รักษาในชุมชนนั้น ไลบีเรีย และกินีกำลังรักษาผู้ที่ได้รับรายงานการติดเชื้อมากกว่า 70% ขณะที่เซียร์ราลีโอนน่าจะบรรลุเป้าหมายได้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ หลังจากเพิ่มเตียงรักษาผู้ป่วยมากขึ้น

ขณะเดียวกัน รองผู้อำนวยการ WHO ระบุว่า เตียงผู้ป่วยอีโบลาที่พร้อมใช้งานมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าใน 3 ประเทศ โดยเซียร์ราลีโอนมีจำนวนเตียงพุ่งขึ้นมากที่สุดจากราว 267 เตียง ในช่วงปลายเดือนก.ย. เป็นเกือบ 650 เตียงในวันที่ 1 ธ.ค. ส่วนเตียงของไลบีเรียเพิ่มขึ้นจาก 480 เตียงเป็นเกือบ 1,000 เตียง สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ