นอกจากนี้ เซฟาเลยังได้กล่าวว่าเขาพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับประธานฟีฟ่าคนใหม่ ก่อนที่จะก้าวลงจากเวที ขณะที่สมาชิกในประชุมต่างลุกขึ้นปรบมือให้เกียรติต่อเขา
เซฟาเลถือเป็นผู้สมัครคนสุดท้ายที่ได้ขึ้นกล่าวต่อที่ประชุมฟีฟ่า ขณะที่ผู้สมัคร 4 รายก่อนหน้านี้ได้กล่าวแสดงวิสัยทัศน์หากได้รับเลือกเป็นประธานฟีฟ่าคนใหม่
ขณะนี้เหลือผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานฟีฟ่าเพียง 4 ราย ซึ่งได้แก่ จานนี อินฟานติโน, ชีค ซัลมาน บิน อิบราฮิม อัล-คาลิฟา, เจ้าชายอาลี บิน อัล ฮุสเซน และเฌอโรม ฌองปาล
คาดว่ากระบวนการลงคะแนนเสียงรอบแรกจากสมาชิกทั้ง 207 ชาติจะใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง ซึ่งตัวแทนแต่ละชาติจะต้องขึ้นไปใส่บัตรลงคะแนนในคูหา พร้อมห้ามนำอุปกรณ์สื่อสารติดตัว เนื่องจากเคยมีการถ่ายรูปบัตรลงคะแนนเพื่อเรียกรับสินบนก่อนหน้านี้
ผู้ที่จะชนะการเลือกตั้งในรอบแรกจำเป็นต้องได้รับคะแนนไม่ต่ำกว่า 138 เสียง แต่หากไม่มีผู้ชนะในรอบแรก ก็จะต้องทำการลงคะแนนในรอบต่อๆไป โดยผู้ที่จะชนะจะต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 104 เสียง
อย่างไรก็ดี คาดว่าจะยังไม่มีผู้สมัครรายใดได้คะแนนเสียงถึง 138 เสียงในรอบแรก ซึ่งจะทำให้การเลือกตั้งดำเนินไปในรอบ 2 หรือ 3 ขณะที่ผู้สมัครที่ได้คะแนนต่ำสุดจะถูกตัดออกในแต่ละรอบ
ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมได้ลงคะแนนเสียงท่วมท้นสนับสนุนมาตรการปฏิรูปครั้งสำคัญในองค์กรของฟีฟ่า ซึ่งจะปูทางให้มีการปรับปรุงการกำกับดูแลวงการฟุตบอลโลก ซึ่งรวมถึงการแยกกันอย่างชัดเจนระหว่างการตัดสินใจในเชิงพาณิชย์และในเชิงการเมือง รวมทั้งให้มีการตรวจสอบผู้บริหารระดับสูง ขณะที่ส่งเสริมเพศหญิงในวงการฟุตบอล และสนับสนุนสิทธิมนุษยชน
มาตรการปฏิรูปดังกล่าวได้รับเสียงสนับสนุน 179 เสียงจากสมาชิกฟีฟ่าทั้งหมด 207 เสียงที่อยู่ในที่ประชุม