ผู้เชี่ยวชาญหลายคนในภูมิภาคเอเชียมั่นใจว่า จีนจะได้จะแยกตัวออกจากภูมิภาคตามคำกล่าวอ้างของนายแอชตัน คาร์เตอร์ รัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐ
ก่อนหน้านี้ นายคาร์เตอร์กล่าวในสุนทรพจน์ระหว่างการประชุม "Shangri-La Dialogue" ครั้งที่ 15 ที่มีเนื้อหาการประชุมมุ่งเน้นไปที่ความปลอดภัยของเอเชีย-แปซิฟิคว่า จีนจะแยกตัวออกจากภูมิภาคเอเชีย
นายอาซานยา อาเบยากูนาเซเครา อาจารย์พิเศษวิชาเศรษฐศาสตร์การเมืองนานาชาติ มหาวิทยาลัยลอนดอนในสถาบันโคลัมโบ ศรีลังกา กล่าวว่า "สุนทรพจน์ของนายคาร์เตอร์ไม่ได้ช่วยประสานความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่างๆ ซึ่งสิ่งสำคัญที่ควรทำในเวลานี้คือการสร้างแนวทางที่ร่วมมือกัน แทนที่จะแสดงความเห็นที่ไม่สุภาพ"
"ความเห็นดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องด้วยแนวคิดที่ว่า สหรัฐมีความสำคัญต่อเอเชีย และต้องการมีบทบาทมากขึ้นในภูมิภาคนี้" นายอาซานยากล่าวพร้อมระบุว่า "หากคุณสังเกตเห็นจำนวนหน่วยสืบราชการลับ หน่วยงานสอดส่องดูแลและสอดแนมที่สหรัฐจัดตั้งขึ้นในเอเชีย คุณก็จะรู้ว่าสหรัฐมีบทบาทมากขึ้น"
เมื่อกล่าวถึงประเทศจีน นายอาซานยากล่าวว่า จีนและพันธมิตรอื่นๆในภูมิภาคต่างก็มีวัฒนธรรมที่คล้ายคลึง และเป็นชุมชนเดียวกัน" และระบุว่า "จีนไม่เคยแยกตัวออกจากประวัติศาสตร์ และจะไม่ออกจากอนาคตเช่นเดียวกัน"
นายอู๋ ซินโป๋ หัวหน้าคณบดีสถาบันการศึกษานานาชาติ แห่งมหาวิทยาลัยฟูตัน ของจีน กล่าวว่า ความเห็นของนายคาร์เตอร์มีเป้าหมายเพื่อจะขายแนวคิดการสร้างเครือข่ายความปลอดภัยที่มีลักษณะคล้ายนาโต้ (NATO) ของสหรัฐให้แก่ประเทศในเอเชีย ซึ่งเครือข่ายดังกล่าวจัดตั้งขึ้นด้วยกฏหมายที่สนับสนุนโดยสหรัฐและพันธมิตรในภูมิภาครายอื่นๆ
นอกจากนี้ นายอู๋กล่าวว่า ความคิดเห็นของรมว.กลาโหมสหรัฐนั้นเหมือนการสร้างความบันเทิงให้ตัวเอง เพราะสหรัฐไม่พอใจที่จีนมีมาตรการแลกเปลี่ยนความปลอดภัยกับประเทศในเอเชียมากขึ้น
"จีนไม่สามารถแยกตัวออกจากภูมิภาคนี้ได้" นายอู๋กล่าวพร้อมเสริมว่า "หลายปีแห่งการกดดันของสหรัฐนั้นไร้ประโยชน์ และจีนกำลังเดินหน้าทำสิ่งที่สำคัญ"
นายที บันห์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมกัมพูชาเปิดเผยว่า ตนคิดว่าคำพูดของนายคาร์เตอร์นั้นไม่ถูกต้อง เพราะแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับการแก้ไขความขัดแย้งคือแนวทางสันติและการเปิดโอกาสให้ผู้ที่เกี่ยวข้องบรรลุความเข้าใจร่วมกันผ่านการเจรจา" นายโคโลเนล ลู่ หยิน นักวิจัยร่วมจากสถาบันการศึกษาเชิงกลยุทธ์ แห่งมหาวิทยาลัยป้องกันประเทศของจีนระบุว่า ความเห็นเหล่านั้นตีความนโยบายของจีนไปในทางที่ผิด และไม่สอดคล้องกับแนวคิดการพัฒนาความสัมพันธ์รูปแบบใหม่ของทั้งสองประเทศ" พร้อมกล่าวว่า คำพูดของนายคาร์เตอร์เผยให้เห็นถึงความผิดปกติเชิงตรรกะในกลยุทธ์การปรับสมดุลในเอเชียแปซิฟิกของสหรัฐ
นอกจากนี้ นายลู่ ได้กล่าวว่า "ผมไม่เห็นความเป็นไปได้ที่สหรัฐจะสามารถเข้าใจกลยุทธ์การปรับสมดุลในเอเชียแปซิฟิกและบรรลุผลสำเร็จโดยปราศจากความช่วยเหลือจากจีน"