ยูนิเซฟรายงานว่า ในบรรดาเด็กๆที่ลี้ภัยเข้ามาในยุโรปผ่านทางประเทศอิตาลีนั้น กว่า 9 ใน 10 เดินทางมาตามลำพังโดยไร้คนดูแล พร้อมกับเตือนว่าเด็กๆเหล่านี้มีความเสี่ยงที่จะถูกทารุณกรรม แสวงหาประโยชน์ หรือแม้กระทั่งถูกคุกคามถึงชีวิต
เมื่อวานนี้ ยูนิเซฟได้เปิดเผยรายงาน "Danger Every Step of the Way" ที่ระบุว่า ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ จำนวนเด็กผู้ลี้ภัยที่เดินทางจากแอฟริกาเหนือข้ามมายังอิตาลีโดยลำพังมีมากถึง 7,009 คน สูงกว่าปีที่แล้วสองเท่า
สเตฟาน ดูฮาร์ริก โฆษกยูเอ็น กล่าวว่า "เด็กผู้ลี้ภัยมักต้องพึ่งพาขบวนการค้ามนุษย์ โดยต้องจ่ายเงินให้แก่นายหน้าจึงจะเดินทางได้ ซึ่งเป็นการเปิดช่องให้เกิดการแสวงหาประโยชน์จากเด็ก ทั้งการแสวงหาประโยชน์ทางเพศและการทารุณกรรมรูปแบบอื่นๆ"
มารี ปิแอร์ พอยริเย ผู้ประสานงานพิเศษด้านวิกฤตผู้ลี้ภัยในยุโรปของยูนิเซฟ กล่าวว่า "นี่เป็นภัยเงียบที่น่าสลดใจและถูกมองข้าม เด็กผู้ลี้ภัยหลายหมื่นคนกำลังเผชิญกับภัยอันตรายทุกวัน และยังมีเด็กอีกหลายแสนคนที่พร้อมจะเสี่ยงเช่นกัน พวกเราต้องเร่งปกป้องเด็กๆเหล่านี้จากการทารุณกรรมและการเอารัดเอาเปรียบทุกรูปแบบ จากกลุ่มคนที่ใช้ความฝันของเด็กๆเป็นเครื่องมือหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง"
นักสังคมสงเคราห์ของอิตาลีเปิดเผยต่อยูเอ็นว่า เด็กๆทั้งหญิงและชายต่างถูกล่วงละเมิดทางเพศและถูกบังคับให้ค้าประเวณีขณะที่อยู่ในลิเบีย และเด็กผู้หญิงหลายคนตั้งครรภ์เมื่อเดินทางมาถึงอิตาลี
ยูนิเซฟเปิดเผยว่า ขบวนการค้ามนุษย์เคลื่อนไหวอย่างผิดกฎหมาย จึงไม่อาจทราบจำนวนที่แน่ชัดของเด็กผู้ลี้ภัยที่เสียชีวิต ถูกบังคับใช้แรงงานหรือค้าประเวณี หรือถูกกักตัว
คุณพอยริเยกล่าวทิ้งท้ายว่า "ทุกๆประเทศ ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่เด็กอพยพออกมา ประเทศที่เดินทางผ่าน หรือประเทศจุดหมายปลายทาง มีหน้าที่คุ้มครองเด็กผู้ลี้ภัยที่เดินทางตามลำพังจากอันตรายต่างๆที่ต้องเผชิญ"
"ในส่วนของสหภาพยุโรปและประเทศจุดหมายปลายทางอีกหลายๆแห่งนั้น ควรมีการพัฒนานโยบายและปฏิรูปกฎหมายเพื่อนำไปสู่ช่องทางการลี้ภัยที่ปลอดภัยและถูกกฎหมายสำหรับเด็กๆ" สำนักข่าวซินหัวรายงาน