กลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบเหตุระเบิดรถยนต์ที่ย่านการค้าในกรุงแบกแดด เมืองหลวงของอิรัก ในช่วงเช้ามืดวันนี้ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 79 ราย และบาดเจ็บอีก 133 ราย
ไอเอสระบุในแถลงการณ์ออนไลน์ที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ยืนยันความถูกต้องว่า หนึ่งในมือระเบิดฆ่าตัวตายของกลุ่มซึ่งมีชื่อเล่นว่า อาบู มาฮา อัล-อิรัก ได้จุดชนวนระเบิดรถยนต์ในเขตคาร์ราดา-ดาคิล ซึ่งเป็นย่านการค้าของชาวชีอะห์ ทางตอนกลางค่อนไปทางใต้ของกรุงแบกแดด
ก่อนหน้านี้ แหล่งข่าวกระทรวงมหาดไทยของอิรักเปิดเผยว่า เกิดเหตุระเบิดรถยนต์ที่ย่านการค้า 2 แห่งในกรุงแบกแดด โดยเหตุการณ์แรกเกิดขึ้นในเวลาประมาณ 1.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (5.00 น. ตามเวลาไทย) เมื่อมือระเบิดฆ่าตัวตายจุดชนวนระเบิดรถยนต์ของตนเองที่ถนนสายหนึ่งในคาร์ราดา-ดาคิล ซึ่งมีผู้คนสัญจรกันอย่างขวักไขว่ ส่งผลให้อาคาร 5 หลังที่อยู่ใกล้เคียงเกิดเพลิงไหม้ ขณะที่ร้านค้าและแผงลอยหลายแห่งได้รับความเสียหาย และรถยนต์หลายคันถูกทำลายเนื่องจากแรงระเบิดที่รุนแรง ส่วนเหตุระเบิดอีกลูกหนึ่งเกิดขึ้นที่ตลาดชาลลัล ซึ่งทำให้ร้านค้าและแผงลอยที่อยู่ใกล้เคียงได้รับความเสียหาย
นายไฮเดอร์ อัล-อาบาดี นายกรัฐมนตรีของอิรัก ได้เดินทางไปยังสถานที่เกิดเหตุที่คาร์ราดาในช่วงเช้าวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น โดยแถลงการณ์ซึ่งออกโดยสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า นายอาบาดีได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ พร้อมกับสัญญาว่าจะนำผู้ก่อเหตุมาลงโทษ
ทั้งนี้ อิรักเผชิญเหตุการณ์รุนแรงระลอกใหม่ นับตั้งแต่ที่กลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ได้เข้ายึดครองพื้นที่ทางตอนเหนือและตะวันตกของอิรักเมื่อเดือนมิ.ย. 2557
รายงานจากภารกิจช่วยเหลืออิรักแห่งสหประชาชาติ (UNAMI) ประมาณการก่อนหน้านี้ว่า มีผู้เสียชีวิต 662 คน และอีก 1,457 คนได้รับบาดเจ็บ จากเหตุก่อการร้าย ความรุนแรงและความขัดแย้งทั่วอิรัก ในเดือนมิ.ย.