สถานทูตรัสเซียประจำสหรัฐออกแถลงการณ์ระบุว่า มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐที่มีต่อรัสเซียมีความรุนแรงเกินไป และเหตุผลที่ใช้ในการออกมาตรการคว่ำบาตรที่ว่า รัสเซียอยู่เบื้องหลังการใช้สารพิษทำลายระบบประสาทในการลอบสังหารอดีตสายลับรัสเซียและลูกสาวที่ลี้ภัยอยู่ในอังกฤษ ก็เป็นเรื่องที่ฟังไม่ขึ้น
สถานทูตรัสเซียระบุว่า ผลการสอบสวนของทางสหรัฐไม่ได้รับการสนับสนุนจากข้อเท็จจริงแต่อย่างใด และรัสเซียขอเรียกร้องให้มีการสอบสวนเรื่องดังกล่าวอย่างโปร่งใส และเปิดเผย
ทางด้านนายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า การคว่ำบาตรถือเป็นท่าทีที่ไม่เป็นมิตรจากสหรัฐ และเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย แต่รัสเซียยังคงหวังว่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับสหรัฐในเวลาต่อไป
ตลาดหุ้นและค่าเงินรัสเซียดิ่งลงในวันนี้ โดยได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ของสหรัฐ เพื่อลงโทษรัสเซียกรณีอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารอดีตสายลับรัสเซียและลูกสาวที่ลี้ภัยอยู่ในอังกฤษ
ทั้งนี้ ดัชนี RTS ของตลาดหุ้นรัสเซียดิ่งลงกว่า 2% ในวันนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มการเงินและอุตสาหกรรมทรุดตัวลงมากที่สุด ส่วนค่าเงินรูเบิลร่วงลง 3% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 21 เดือนเมื่อเทียบดอลลาร์
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐประกาศว่า มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 22 ส.ค. โดยจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าอิเลคทรอนิคส์ของรัสเซีย และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ
แถลงการณ์จากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐมองว่ารัฐบาลรัสเซียได้ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศปี 1991 ซึ่งได้ห้ามการใช้อาวุธเคมีหรืออาวุธชีวภาพ โดยรัสเซียได้ใช้อาวุธดังกล่าวต่อพลเมืองของตน ซึ่งก็คือนายเซอร์เก สกรีปอล อดีตสายลับชาวรัสเซียที่แปรพักตร์มาอยู่ฝ่ายอังกฤษ และนางยูเลีย ผู้เป็นบุตรสาว
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐยังกล่าวหาว่า รัสเซียได้ใช้สารพิษทำลายประสาทกลุ่ม "โนวีชอก" (Novichok) เพื่อลอบสังหารบุคคลทั้งสอง